รวมเรื่องต้องรู้ที่คน "จัดฟัน" ควรอ่าน!
รวมเรื่องต้องรู้ที่คน "จัดฟัน" ควรอ่าน มีอะไรบ้างที่ควรทำ และไม่ควรทำระหว่างจัดฟัน ติดตามได้จากบทความนี้
สำหรับผู้ที่ต้องการ จัดฟัน ก่อนทำลองมาศึกษารายละเอียดกันก่อนว่ามีเรื่องที่ควรรู้อะไรบ้าง?
การจัดฟัน คืออะไร?
การจัดฟัน คือ การปรับแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่มีการสบกันหรือเรียงตัวกันที่ไม่เป็นระเบียบ อาทิ ฟันเก ฟันห่าง ฟันคร่อม และการมีช่องว่างระหว่างฟัน รวมถึงการช่วยปรับขากรรไกร เพื่อให้การสบฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปรับโครงหน้าให้เข้ารูป เสริมสร้างบุคลิกภาพ และเพื่อสุขภาพของช่องปากที่ดีขึ้น
เริ่มจัดฟันตอนอายุเท่าไรดี?
อายุที่เหมาะแก่การจัดฟันมากที่สุดจะอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 14-15 ปี ขึ้นไป เนื่องจากฟันแท้ขึ้นครบแล้ว รวมถึงขากรรไกรมีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้วเช่นกัน แต่ทั้งนี้สำหรับเด็กที่อายุตั้งแต่ 6 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ แต่ต้องเป็นกรณีที่มีปัญหาฟันหน้ายื่นมากกว่าปกติ หรือมีปัญหาฟันที่ไม่สบกัน สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ได้ทันที
"ฟัน" แบบไหนที่ควร "จัดฟัน"
- ฟันบนยื่น
เป็นลักษณะของฟันบนที่คร่อมฟันล่าง แต่ยื่นออกมามากเกินไป ส่งผลให้ปากอูม โดยในรายที่มีอาการรุนแรง อาจส่งผลกระทบลุกลามไปยังอวัยวะอื่น จนรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
- ฟันล่างยื่น
หรือ "ภาวะคางยื่น" เป็นลักษณะที่ฟันล่างคร่อมฟันบน ส่งผลให้รูปหน้าแลดูยาวผิดรูป การสบของฟันผิดปกติ และกระทบต่อการเคี้ยวอาหาร
- ฟันสบเปิด
เป็นลักษณะของขากรรไกรที่ผิดปกติ เมื่อขบฟัน ฟันหน้าอ้าออก ทำให้การกัดอาหารทำได้ไม่ดี บางรายอาจพูดได้ไม่ชัด
- ฟันกัดคร่อม
เกิดจากฟันบนและฟันล่างมีความเหลื่อมกัน หรือไขว้กัน ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ฟันหน้ากัดอาหารได้ดีเท่าที่ควร บางรายอาจมีลักษณะของขากรรไกรที่ผิดปกติร่วมด้วย การออกเสียงพูดทำได้ไม่ค่อยชัด
- ฟันห่าง
อาจเกิดได้จากฟันขึ้นไม่เต็มหรือฟันหลุด มีช่องว่างระหว่างฟันมากกว่า 0.5 มิลลิเมตร ส่งผลให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด และมีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟัน เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเหงือกอักเสบ ฟันผุ รวมถึงคราบหินปูน
- ฟันกัดเบี้ยว
เกิดจากขากรรไกรเอียงไปด้านใดด้านหนี่งมากกว่าปกติ ทำให้จุดศูนย์กลางของฟันล่างและฟันบนไม่ตรงกัน เป็นปัญหาต่อการบดเคี้ยวอาหาร รวมถึงรูปทรงของใบหน้าเบี้ยว
- ฟันซ้อน
เกิดจากในช่องปากยังมีฟันน้ำนมอยู่แต่มีฟันแท้ขึ้นมาซ้อน ส่งผลให้ฟันเกทับกัน จึงต้องถอนฟันที่เกินออก แล้วจัดฟันให้เรียงชิดกัน
สิ่งที่ควรปฏิบัติระหว่างจัดฟัน
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง
สิ่งแรกที่คนจัดฟันควรจะเริ่มปฏิบัติคือ การหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็ง เนื่องจากการรับประทานอาหารประเภทนี้จะทำฟันสึกหรอ รวมไปถึงทำให้รูปร่างของฟันผิดรูปและยังทำให้เครื่องมือที่จัดฟันนั้นหลุดได้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเช่น น้ำแข็ง หมากฝรั่ง ปลาหมึก หรืออาหารที่มีความแข็ง เป็นต้น
- ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อน
ในช่วงแรกที่ทำการติดตั้งเครื่องมือจัดฟันเรียบร้อยแล้ว ควรจะรับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม เป็นต้น สามารถรับประทานข้าวสวยได้ หรือจะเลือกรับประทานผักและผลไม้ควรจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้บดเคี้ยวได้ง่ายเพิ่มขึ้น
- ควรทาสีผึ้ง
สำหรับคนที่จัดฟันในระยะแรก อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บจากการถูกเหล็กทิ่มให้ทำการทาสีผึ้งในบริเวณดังกล่าวเป็นประจำ เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์อาการเหล่านี้ก็จะทุเลาลง
- ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำ
คนที่ทำการจัดฟันควรจะดื่มน้ำเปล่าสะอาดเป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่มีแผลในช่องปากควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกายและช่วยฟื้นฟูแผลในปากได้อย่างรวดเร็ว
- แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
คนที่จัดฟันควรจะแปรงฟันทุกครั้งหลังจากรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันเศษอาหารติดที่ซอกฟันและที่เหล็กจัดฟัน และช่วยลดอาการฟันผุได้
- ควรตรวจฟันทุก 6 เดือน
สำหรับคนที่จัดฟันควรจะทำการตรวจฟันที่นอกเหนือจากช่วงเวลาในการเปลี่ยนสียางทุกเดือน โดยการไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อป้องกันฟันผุ และขูดหินปูนทุก 6 เดือน
สำหรับข้อควรปฏิบัติข้างต้น เป็นสิ่งที่คนจัดฟันทุกคนควรจะปฏิบัติระหว่างที่ทำการจัดฟัน เพื่อให้การรักษาฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและให้อยู่ในระยะเวลาที่ทันตแพทย์ได้กำหนด
สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติระหว่างจัดฟัน
เมื่อเรียนรู้สิ่งที่ควรปฏิบัติแล้ว จะต้องทำการเรียนรู้สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติด้วย เพื่อช่วยให้การจัดฟันนั้น รักษาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสวยงามเพิ่มมากขึ้น
- ไม่ควรผิดนัดทันตแพทย์
การที่คนไข้ผิดนัด จะทำให้ต้องยืดระยะเวลาในการรักษาเพิ่มตามไปด้วย เนื่องจากทันตแพทย์จะทำการคำนวณแล้วว่าควรจะเปลี่ยนยางฟันในช่วงเวลาใดและในช่วงเวลาที่เปลี่ยนยางนั้นจะต้องตรวจดูความเปลี่ยนแปลงของฟันว่าเกิดการเปลี่ยนรูปตามที่คาดการณ์หรือไม่ ถ้าหากคนไข้ผิดนัดจะทำให้การคำนวณการเคลื่อนตัวของรูปฟันนั้นเปลี่ยนตามไปด้วยจากที่ต้องใช้เวลา 3 ปี ก็อาจจะเลื่อนไปเป็น 3 ปี 5 เดือน เป็นต้น
- ไม่ควรใช้ฟันกัดเล็บ หรือกัดสิ่งแปลกปลอม
การกัดเล็บไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะคนที่ทำการจัดฟัน ถ้าหากกัดเล็บจะทำให้เครื่องมือที่ติดอยู่ในช่องปากนั้นเกิดหลุดได้ และจะต้องไปให้ทันตแพทย์ติดตั้งเครื่องมือเพิ่ม จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ
- ห้ามใช้ลิ้นสัมผัสบริเวณที่ติดตั้งเครื่องมือ
การใช้ลิ้นสัมผัสภายในช่องปาก หรือบริเวณที่ทำการติดตั้งเครื่องมือ จะทำให้ขัดขวางกระบวนการจัดรูปฟันได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรทำ
- ห้ามทานอาหารประเภทกระดูก
การงดรับประทานอาหารประเภทกระดูกนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันกัดโดนกระดูก โดยเฉพาะอาหารประเภทไก่ทอด ไก่ย่าง จะมีกระดูกและมีความเหนียว ถ้าหากคนที่จัดฟันเลือกที่จะแทะหรือกัดโดยตรง อาจจะทำให้เหล็กที่อยู่ภายในช่องปากบิดเบี้ยวและผิดรูปได้
เมื่อได้ทำความเข้าใจแล้วว่าสิ่งใดที่ไม่ควรปฏิบัติ คนที่จัดฟันจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด เพื่อให้การจัดฟันนั้นมีประสิทธิภาพและส่งผลให้ฟันเรียงตัวสวยงามด้วย
สำหรับคนที่จัดฟันนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงจัดเริ่มแรก หรือจัดมาเป็นระยะเวลานาน จะต้องปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดฟัน ถ้าหากทำตามใจตนเองอาจจะส่งผลต่อการจัดฟันได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ฟันผิดรูป การขยายเวลาในการจัดฟันเพิ่มซึ่งจะทำให้เสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น คนไข้ไม่ควรละเลยสิ่งที่ทันตแพทย์สั่ง และไม่ควรที่จะผิดนัด เพราะการผิดนัด 1 ครั้งจะขยายเวลาในการจัดฟันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ใครมีปัญหาเรื่องฟัน สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ที่ PLUS Dental ก่อนได้ เพราะปัญหาในช่องปากถ้าหากปล่อยไว้ อาจสายเกินแก้