CIVIL กางแผน Road Map 7 ปี ทรานส์ฟอร์เมอร์ส

            วินาทีนี้ถ้าให้พูดถึง บมจ. ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ปัจจุบันคือบริษัทรับเหมาก่อสร้างไทยที่กำลังเนื้อหอม เป็นบริษัทเลือดใหม่ของวงการก่อสร้าง ที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของนวัตกรรม เทคโนโลยีการก่อสร้าง การบริหารจัดการด้านการก่อสร้างโครงการต่างๆ ทั้งงานถนน เขื่อน ทางด่วน ทางรถไฟ สนามบิน

            โครงการก่อสร้างดังกล่าว สามารถดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่เหมาะสมและรวดเร็ว ช่วยให้ต้นทุนลดลง ประชาชนและนักลงทุนได้รับประโยชน์ต่อระบบบริการ Infrastructure ต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ต่อการผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศชาติเติบโตไปด้วย

            อีกทั้งกำลังเป็นบริษัทที่เตรียมจะพลิกโฉม หรือ “ทรานส์ฟอร์เมอร์สตัวเอง” จากบริษัทรับเหมาก่อสร้างสู่การเป็นผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจร มากยิ่งขึ้นในอนาคต

จากการเข้าไปสัมภาษณ์ คุณปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ได้เปิดเผยถึง Road Map ของบริษัทในอีก 7 ปีข้างหน้า (2566 – 2573) โดยสิ่งที่จะทำให้บริษัทก้าวไปสู่การเปลี่ยนผ่านไปเป็นผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจร ประกอบด้วย

1. Construction ธุรกิจการก่อสร้าง ด้วยประสบการณ์ดำเนินงานมากว่า 50 ปี บริษัทมีความเชี่ยวชาญมุ่งเน้นไปที่งานโครงสร้างพื้นฐานและงานก่อสร้างภาครัฐเป็นหลัก ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ถึง 95% หลังจากนี้จะได้เห็นบริษัทเข้ารับงานโครงการต่างๆ ที่น่าสนใจ โดยในส่วนของงานภาครัฐจะไม่จำกัดอยู่แค่งานสร้างถนน, ทางด่วน, ทางรถไฟ, เขื่อน และ สนามบิน ที่เป็นงานถนัดของบริษัทเท่านั้น แต่จะมีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ งานระบบชลประทาน รวมถึงงานโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership หรือ PPP) ก็เป็นอีกโอกาสที่บริษัทเล็งเห็นความสำคัญและมีแผนก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศครั้งนี้

เพราะงานก่อสร้างปัจจุบันไม่ได้มีแค่งานโครงสร้างพื้นฐานและงานภาครัฐเท่านั้น ยังมีงานในส่วนอื่นๆ ที่เป็นโอกาสสร้างการเติบโตอยู่ อาทิ งานอาคารสำนักงาน, ธุรกิจบริการ (Hospitality), ธุรกิจพลังงาน และ โลจิสติกส์ สิ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงคือการดันสัดส่วนเข้ารับงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 20% เพื่อขยายขีดความสามารถในการดำเนินงาน โดยเข้ารับงานที่หลากหลายตามการเติบโตของเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดการลงทุน ประกอบกับบริษัทมีแผนสำหรับการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต

ปัจจุบัน CIVIL มีศักยภาพในการเข้ารับงานก่อสร้างขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ในระดับตั้งแต่ 50 - 10,000 ล้านบาท เป็นบริษัทที่สามารถรับงานก่อสร้างได้หลากหลายประเภท บริษัทพร้อมที่จะเป็นทางเลือกที่ดีให้พันธมิตรที่สนใจจะเข้ามาร่วมลงทุน หรือจะเป็นตัวของบริษัทเองที่จะเป็นผู้เปิดประตูไปสู่โอกาสของการรับงานใหม่ๆ เพื่อก้าวไปสู่การผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจร พร้อมที่จะแข่งขันในระดับอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันก็มีความพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับประเทศชาติ และส่งต่อโลกที่ดีขึ้นให้กับคนรุ่นต่อไป

 

2. Non-Construction ธุรกิจที่นอกเหนืองานก่อสร้าง บริษัทมีการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีสำนักงานให้เช่า มีที่ดิน และมีธุรกิจเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างให้เช่า รวมถึงธุรกิจด้านการผลิตวัสดุก่อสร้าง โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปลงทุนในส่วนของธุรกิจเหมืองหินในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ จังหวัดสระบุรี และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนงานก่อสร้าง ได้แก่ โรงงานผลิตชิ้นส่วน Segment คอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป เพื่อใช้สนับสนุนงานก่อสร้างของกลุ่มบริษัททั้งหมด

ซึ่งกลุ่ม Non-Construction เป็นกลุ่มธุรกิจที่บริษัทให้ความสำคัญและจะผลักดันการเติบโต จากเดิมมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 5 % ให้กลายมาเป็น 20 % ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่มีทั้งรูปแบบการหาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ หรือ การเข้าไปลงทุนและซื้อสินทรัพย์ใหม่ๆ เอง

            ภายหลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ก็ถือเป็นโอกาสให้กับบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น จากความมั่นใจในผลประกอบการ ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท และแผนการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัท อาทิ การมี Strategic Resources หรือการบริหารจัดการต้นทุนและการดำเนินงานโครงการก่อสร้าง

 

รวมถึงการดูแลซัพพลายเออร์หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดกระบวนการดำเนินงาน, การเป็น Smart Engineering ใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างให้ได้งานที่มีคุณภาพ และมีความพร้อมในเรื่องของบุคลากร เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นการปลูกฝังวัฒนธรรมการทำงาน ให้บุคลากรทุกคนมีระบบความคิดที่รักในหน้าที่และชอบเฟ้นหาทางเลือกใหม่ๆ ที่ดีกว่า

เพื่อจะช่วยให้ผลลัพธ์ของการทำงานดียิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้ประสิทธิภาพเต็มที่ พร้อมให้ความสำคัญกับการให้โอกาส การดูแล และการพัฒนาบุคลากรอย่างมาก มีการส่งบุคลากรไปฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะต่างๆ อยู่เสมอ อีกทั้งบริษัทเชื่อว่าการเลือกพันธมิตรที่ดี จะเป็นการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน

อีกทั้ง โครงการในมือที่บริษัทรับผิดชอบอยู่ต้องทำและพัฒนาให้ดี  ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรภายใน เพื่อให้ CIVIL เป็นบริษัททางเลือกที่ดีสำหรับคนที่รักในงานก่อสร้าง และอยากเห็นงานก่อสร้างออกมาดี มีคุณภาพน่าเชื่อถือ ในงบประมาณการก่อสร้างที่ดีและสร้างเสร็จในเวลาที่เหมาะสม

            สำหรับผลประกอบการในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าการเติบโต 20% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 6,000-8,000 ล้านบาท ขณะที่ ปี 2565 มียอดขายอยู่ 6,000 ล้านบาท และ ถ้าก้าวไปตาม Road Map 7 ปี ที่วางไว้ ยอดขายของบริษัทก็จะเติบโตไปสู่ระดับ 10,000 ล้านบาท ขึ้นไป