กลุ่มสยามกลการ แต่งตั้ง ประกาสิทธิ์ พรประภา นั่งแท่นกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มสยามกลการ ประกาศแต่งตั้ง "ประกาสิทธิ์ พรประภา" ขึ้นดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วย Core Values "ซื่อสัตย์ สามารถ ขยัน" สร้างความเป็นหนึ่ง เพื่อพัฒนากลุ่มธุรกิจให้ยั่งยืน
ตลอดระยะเวลาบนเส้นทางความสำเร็จและมีชื่อเสียงในการทำธุรกิจด้านรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วน รถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายของนักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างประเทศ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ บริษัท สยามกลการ จำกัด ด้วยความมุ่งมั่น และการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง จวบจนปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 71 อย่างมั่นคงและแข็งแรง นำโดย ดร.พรเทพ พรประภา ประธานกรรมการบริษัท ที่เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ กลุ่มสยามกลการ ให้เจริญเติบโต สำเร็จ มั่นคงอย่างยั่งยืน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความเจริญเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
จากมติที่ประชุมบอร์ด บริษัท สยามกลการ จำกัด เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ได้แต่งตั้ง ประกาสิทธิ์ พรประภา จากเดิมดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (Executive Vice President) ขึ้นดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President of Siam Motors) บริษัท สยามกลการ จำกัด ที่ประสบความสำเร็จและเติบโตมาจากการดำเนินธุรกิจใน 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์, อะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์, อุตสาหกรรมและเครื่องจักรหนัก,การท่องเที่ยวและบริการ, การศึกษาและเครื่องดนตรี และการลงทุน
ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด กล่าวว่า บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบหลังจากได้รับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด บริษัทจะยังคงขับเคลื่อนธุรกิจและต่อยอดความแข็งแกร่ง แสวงหาโอกาสใหม่ๆ พร้อมกับการพัฒนาบุคลากรให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 นี้ มีการเปิดตัวโครงการต่างๆ อาทิ โครงการสยามปทุมวันเฮ้าส์ (Siam Pathumwan House) อาคารเช่าสำนักงาน เกรด A 33 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางสี่แยกปทุมวัน คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณปลายปีนี้ และโครงการ SMG Academy เพื่อพัฒนาบุคลากรภายในกลุ่มสยามกลการเพื่อเตรียมพร้อมและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เนื่องจากการสร้างคน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างรากฐานของธุรกิจให้แข็งแรง มั่นคง เพื่อให้ กลุ่มสยามกล การเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน และอยู่คู่กับสังคมไทยได้ตลอดไป