เปิดประสบการณ์'สู้มะเร็งต่อมน้ำเหลือง'จนหายขาด
เปิดประสบการณ์จากคนป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจากการเสวนา“ปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข ของชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฯ ที่ผ่านมา
"ปัจจุบันโรคสงบ ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติอย่างที่ต้องการ พร้อมๆ กับเปิดเพจพักก้อน เพื่อเป็นพื้นที่ ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งคนอื่นๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่จะต้องเจอประสบการณ์คล้ายๆ กัน รู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยว"
แพทย์หญิงณัฐรดา คชนันทน์ หรือลูกหมู อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองNon-Hodgkin Lymphomaระยะที่ 4 และเจ้าของเพจพักก้อน เล่าในงานเสวนา“ปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข" ของชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย
มะเร็ง :ใจต้องสู้และรักษาให้ถูกทาง
ลูกหมู เริ่มชีวิตการเป็นหมอในปี 2020 และเริ่มมีอาการป่วย ปลายเดือนเมษายน ปี2022 ในช่วงอายุ 27 ปี โดยคลำพบก้อนที่คอ โตเร็ว ทั้งๆ ที่ไม่เจ็บ ไม่บวม และไม่แดง ซึ่งก้อนที่ไม่เจ็บ ไม่น่าจะเป็นก้อนที่ดี
เธอจึงเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจพบว่า เป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด“Diffuse large B-cell lymphoma”เป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดหนึ่งที่ดุ และโตเร็ว
ไม่ว่าใครก็ตามที่ป่วยเป็นมะเร็ง ชีวิตไม่ได้หมดสิ้นทุกอย่าง หลังจาก 6 เดือนของการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ดูแลตัวเอง และกำลังใจจากคนรอบข้างปัจจุบันโรคสงบ
คุณหมอณัฐรดาได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ และบอกเล่าเรื่องราวผ่านเพจ เพื่อให้หลายคนที่เคยผ่านความยากลำบาก และเจ็บปวดในรูปแบบเดียวกัน สุดท้ายมันจะผ่านไปได้
ตติยาพร คงคาทิพย์
แต่ละเคสของผู้ป่วยมะเร็งแตกต่างกันตามสภาพร่างกายและอาการ ตติยาพร คงคาทิพย์ หรือ ต่าย เคยป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin Lymphoma ระยะ 4 เธอเป็นเจ้าของเพจ มาจะเล่าให้ฟัง Cancer WITH ME
ต่าย เผชิญกับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมื่อตอนปี2562 เริ่มจากมีผื่นคันขึ้นจากที่หลัง ทานข้าวได้น้อยลง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักลดลง ไอแห้ง หลังจากผลเอ็กซเรย์ปอดออกมาก็พบว่า มีก้อนที่ช่องอกติดกับตรงหลอดลมขนาด 8 เซ็นติเมตรกว่า พบภาวะตับโต และมีลิ่มเลือดในปอด
กรณีของต่าย คุณหมอวางแผนการรักษาให้เคมีบำบัดสูตร ABVD 6 Cycle หลังจากลุยรักษาด้วยเคมีบำบัดมา 2 Cycle มีการติดตามดูการตอบสนองของยาด้วย Pet/CT SCAN พบว่าก้อนมะเร็งยุบตัวเหลือเพียง 3 เซ็นติเมตร
หลังจากนั้นคุณหมอแจ้งว่า มีการกระจายขึ้นมาที่หลอดลมด้วยอีก2-3จุด จึงเริ่มทำการรักษาต่อโดยการให้ยาเคมีบำบัดสูตรใหม่ พร้อมยาพุ่งเป้า พร้อมยาเคมีบำบัดสูตรนี้แรงกว่าสูตรเก่า ซึ่งต้องให้ทั้งหมด 6 Cycle และจบการรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ผลออกมาว่าปัจจุบันภาวะโรคสงบมา 2 ปี
ส่วนกรณี พัชรวรรณ หุตะเศรณี หรือ ออน รองนางสาวไทยอันดับที่ 3 ประจำปี 2557 อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองHodgkin Lymphomaระยะที่ 4 กับก้อนขนาดใหญ่ 14 เซ็นติเมตร โดยเริ่มเป็นตอนอายุ 29 ปี ด้วยอาการ ไอ เสียงหาย และไม่สามารถนอนหงายได้ จึงได้เริ่มตรวจCT scan,เจาะชิ้นเนื้อ และให้ยาPrednisolone
สรุปว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปัจจุบันเกือบครบ 2 ปีที่ตรวจเจอโรคมะเร็ง ก็ยังหวังว่าขอให้มะเร็งอยู่ในภาวะโรคสงบ ตั้งแต่เริ่มเป็นมะเร็ง ชีวิตเธอเปลี่ยนไปมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ รอบตัวมากขึ้น
ปัจจุบัน ออนก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่ม “ชมรมผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย”Thai Lymphoma Patients Group (TLPG)เพื่อมาแบ่งปันความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และส่งต่อกำลังใจ ให้กับผู้ป่วยใหม่ และญาติผู้ป่วยในกลุ่มฯ ต่อไป
นวัตกรรมรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ถึงแม้โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะพบมากขึ้น แต่ก็เป็นโรคมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้
ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน แนวทางการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสำหรับผู้ป่วยรายใหม่จะใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับยาพุ่งเป้า(Targeted Therapy)ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนายาพุ่งเป้าตัวใหม่ที่มีความจำเพาะเจาะจงกับโรคแต่ละชนิดมากขึ้น
"โดยให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้นกว่าการรักษามาตรฐาน และการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับผู้ป่วยที่กลับมาเป็นซ้ำ รวมถึงการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งในประเทศไทยกำลังทำการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง
และหากพูดในแง่ผลการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถือเป็นมะเร็งที่ตอบสนองกับการรักษาได้ดี และมีโอกาสหายขาดสูง ถึงแม้จะตรวจพบในระยะ 3 หรือ 4 ก็ตาม"
เนื่องใน “วันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก” วันที่15กันยายนของทุกปี จึงอยากให้ผู้ป่วยมีขวัญและกำลังใจต่อสู้กับโรคได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/thailymphoma