พลังสื่อสร้างสรรค์ สืบสานปณิธาน'แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต' เสถียรธรรมสถาน
กลับมาอีกครั้ง พลังสื่อสร้างสรรค์ทางธรรม เสถียรธรรมสถาน จะสร้างปาฏิหาริย์ช่วยให้คนพ้นทุกข์ได้ไหม ในยุคที่โลกมีแต่ความวุ่นวาย
กว่า 2 ปีที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน ทั้งที่กรุงเทพฯ และหุบเขาโพธิสัตว์ จังหวัดเพชรบุรี ได้คืนลมหายใจสู่ธรรมชาติ แต่ดูเหมือนทุกคนที่เคยทำงานกับท่านจะยังคงทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งและซื่อตรง เหมือนตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
ทุกสุดสัปดาห์ ยังคงมีการเปิดรับผู้ร่วมปฏิบัติธรรมอานาปานสติภาวนา และมีธรรมบรรยายเป็นประจำสม่ำเสมอ ที่เสถียรธรรมสถานและการทำงานเพื่อสร้างสถูปมนตราพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ หรือแม้แต่ทีมงานและอาสาสมัครที่หุบเขาโพธิสัตว์ก็ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง
“2 ปีที่คืนสู่ธรรมชาติ แม่ชีศันสนีย์ไม่ได้จากไปไหน ยังคงอยู่ในใจพวกเราและงานที่ทำ” สายสัมพันธ์ ปัญญศิริ ประธานมูลนิธิเสถียรธรรมสถาน กล่าว
และจากคำพูดที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ กล่าวไว้ว่า “คิดถึงแม่ ให้ทำงาน” ในโอกาสนี้ทีมงานอาสาสมัครนักโฆษณา และนักสร้างภาพยนตร์ รวมถึงทีมงานด้านต่างๆ ที่เคยร่วมสร้างสรรค์“ซีรีย์จ๊ะเอ๋ – บ๊ายบาย” และภาพยนตร์สั้นชุด ความรัก-ศรัทธา-ปาฏิหาริย์ จึงขอกลับมาอีกครั้งในโครงการ “สื่อสร้างปาฏิหาริย์ สืบสานปณิธาน แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต”
เพราะท่านเคยกล่าวไว้ว่า “สื่อเป็นดาบสองคม ถ้าเราไม่ใช้มัน เพื่อเจริญสติปัญญา มันก็อาจเป็นไป เพื่อเจริญตัณหา นำเราไปเป็นเหยื่อได้”
โดยโครงการนี้มีอาสาสมัครที่อยู่ในงานสื่อของคุณแม่เช่น วิวัฒน์ วงศ์กระพันธุ์ (อู๊ด) ผู้บริหารบริษัท วี เมด อิท (We made it) และพรรณพันธ์ ทรงขำ ซีอีโอ บริษัท ซีเนฟาร์ม และพนิดา มาสกุล อาสาสมัครงานด้านสื่อเด็ก เสถียรธรรมสถาน เป็นตัวแทนที่จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแต่ละคนมาทำงานสืบทอดปณิธานในการเผยแผ่ธรรมของท่านแม่ชีศันสนีย์ ด้วยเป้าหมายเดิมคือ “ช่วยให้คนพ้นทุกข์”
วิวัฒน์ กล่าวว่า จากที่ไม่ค่อยได้มาที่เสถียรธรรมสถานช่วงหนึ่ง แต่พอกลับมา ก็ได้เห็นว่าทุกคนยังนำวิถีและวิธีการของท่านแม่ชีศันสนีย์มาใช้ เหมือนตอนท่านยังอยู่
“ดังนั้นคิดว่าควรสื่อให้สังคมได้รับรู้ด้วยว่า คุณแม่จากไปเพียงร่างกาย แต่การปฏิบัติและกิจกรรมเผยแผ่ธรรม เพื่อช่วยให้คนพ้นทุกข์ยังมีเหมือนเดิม
จึงเป็นที่มาของโครงการ ท้า ทาย ธรรม คือ “ท้าทาย คนดังๆ มาร่วมงาน ที่ตั้งเป้าไว้ว่า จะให้ครอบคลุมคนในทุกช่วงอายุ ตอนนี้ตอบรับแล้ว 2 คน คือ พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร กับ ต๊อบ ปฎิญญา ควรตระกูล ซึ่งเป็นบุคคลที่น่าสนใจมาก
เราจะท้าทายให้เขามาใช้เวลาครึ่งวัน ทำแบบฝึกหัดการปฏิบัติต่างๆ ตามแบบที่ท่านแม่ชีเคยใช้ โดยทีมงานในบ้าน และสังฆะก็จะสืบทอดวิธีเช่นนี้ต่อไป
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราต้องการให้อาสาสมัครที่เข้ามาครึ่งวัน จะต้องถึงขนาดปรับเปลี่ยนตัวเอง หรือกลับออกไปเป็นคนที่สมบูรณ์แบบอะไรแบบนั้น
เราเพียงแต่กำลังจะบอกว่า คนที่นี่พร้อมจะเดินทางในวิถีที่แม่ชีศันสนีย์เคยเดิน และอยากชวนคนที่เคยเดินมาที่นี่และคนใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเดินเข้ามา...” วิวัฒน์ กล่าว
เตรียมพบกับเรื่องราวท้าทายธรรมของอาสาสมัคร 2 คนแรกได้ในวันที่ 7 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ทางทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของเสถียรธรรมสถาน
ส่วนโครงการที่ 2 คือ “สูญเสีย แต่ไม่สูญหาย(Lose not lost )” เป็นสารคดีประวัติชีวิตและการทำงาน 4 ทศวรรษของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต” ประมาณ 10 ตอน คาดว่าจะทำเสร็จและให้ทุกคนได้รับชมภายในปี 2567 โดยพรรณพันธ์ ทรงขำ ซีอีโอ บริษัท ซีเนฟาร์ม ผู้เคยร่วมทางเดินกับท่านในภาพยนตร์สั้นชุด “ความรัก ศรัทธา ปาฏิหาริย์” เรื่องราวชีวิตของผู้หญิง 7 คน 7 แบบในบ้านสายสัมพันธ์ และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง นมัสเต จ๊ะเอ๋ - บ๊ายบาย นั่นเอง
และโครงการที่ 3 คือ การกลับมาของภาพยนตร์อนิเมชั่น ชุด การ์ตูนอัศวิน 4.0 ซีซั่น 2 ซึ่งภาคก่อนพากย์เสียงคุณยายจ๋า โดยท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตเอง และได้รับรางวัลจากกองทุนสื่อพัฒนาปลอดภัยและสร้างสรรค์
คราวนี้การ์ตูนอัศวินและแม่ชีน้อยจะเป็นอย่างไร ต้องรอชมพร้อมกันต้นปีหน้าทางสื่อโซเชียลมีเดียทุกช่องทางของเสถียรธรรมสถาน มารอลุ้นกันว่าสื่อจากพลังของอาสาสมัครกลุ่มนี้จะสร้างปาฏิหาริย์ช่วยให้คนพ้นทุกข์ได้ไหม ในยุคที่โลกมีพลังแห่งความวุ่นวาย