FIFA Congress 2024 ความสำเร็จของไทย กับเจ้าภาพจัดอีเวนต์นอกสนามที่ใหญ่สุดของฟีฟ่า

FIFA Congress 2024 ความสำเร็จของไทย กับเจ้าภาพจัดอีเวนต์นอกสนามที่ใหญ่สุดของฟีฟ่า

ประวัติศาสตร์จารึก! ประเทศไทยชาติแรกในอาเซียน เจ้าภาพจัดประชุม FIFA Congress 2024 หรือ ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และชาติที่ 5 ของเอเชีย ที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดอีเวนต์นอกสนามที่ใหญ่สุดของฟีฟ่า

ตลอดอีเวนต์การจัดงาน IFA Congress 2024 ด้วยความทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และการสนับสนุนจากรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืมให้กับแขกผู้มาเยือน ทั้งในส่วนของ 211 สมาคมสมาชิกภายใต้ ฟีฟ่า เหล่านักเตะระดับตำนาน และแขกอื่น ๆ รวมกว่า 3,000 คน สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และได้รับคำชื่นชมอย่างมากมาย จากประธานฟีฟ่า ประธานเอเอฟซี และผู้นำองค์กรลูกหนังที่ต่างประทับใจในการดูแลต้อนรับนับตั้งแต่เดินทางเข้าสู่ไทย จนกระทั่งวันสุดท้ายที่เดินทางกลับบ้าน

ทำงานแข่งกับเวลา มาดามแป้ง "มือประสานสิบทิศ"

FIFA Congress 2024 ครั้งนี้ ส่วนสำคัญมาจากภาครัฐบาลและภาคเอกชน ที่ร่วมด้วยช่วยกันอย่างเต็มที่ รวมถึงคนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าภาพที่ดีร่วมกัน แต่อีกส่วนที่ต้องกล่าวถึง คงหนีไม่พ้น "มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ" นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ทำหน้าที่เป็นมือประสานสิบทิศ เพราะหลังการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ครั้งใหม่จบลงเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา "มาดามแป้ง" และ สภากรรมการชุดใหม่ ต้องเผชิญกับความท้าทาย และทำภารกิจครั้งสำคัญทันที เพราะมีเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ในการเตรียมเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ "ระดับโลก" ครั้งนี้ ซึ่งยังไม่นับภารกิจด้านอื่น ๆ ของสมาคมฯ อีกมากมาย

"มาดามแป้ง" ต้องทำงานแข่งกับเวลามาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่เร่งประสาน ขอเข้าประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และทุกหน่วยงาน รวมถึงประชุมร่วมกับ ฟีฟ่า เพื่ออัปเดตความพร้อมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานในเรื่องสำคัญทั้งวีซ่า และการรับคนเข้า-ออกจาก 211 ประเทศที่เดินทางมา ก่อนได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาลไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB จนทำให้ "ฟีฟ่า" ยกย่องว่า การประชุม FIFA Congress 2024 ที่ไทย เป็นหนึ่งในการประชุมที่สวยงามที่สุด

นอกจากนี้ "มาดามแป้ง" ยังทำหน้าที่เป็น "เจ้าบ้าน" ที่ดี เมื่อมีโอกาสไปต้อนรับประธานฟีฟ่า ประธานเอเอฟซี และประธาน ยูฟ่า ที่เดินทางถึงประเทศไทยด้วยตัวเอง ที่สำคัญในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลหญิงคนแรกของเอเชีย ยังได้รับเกียรติจากทาง "ฟีฟ่า" ให้ร่วมกล่าวต้อนรับสภาฯ ฟีฟ่า ในการประชุม FIFA Council โดยได้ร่วมเสวนากับผู้บริหารหญิงในวงการฟุตบอล Leadership Forum : Executive Women In Football และฉากไฮไลต์คือ การขึ้นกล่าวต้อนรับ 211 ชาติสมาชิกในงานประชุม ฟีฟ่า คองเกรส อีกด้วย แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและความชื่นชมจากสุดยอดผู้นำทั้งหมดที่เดินทางมา

ส่งต่อ Soft Power ผ่านการแสดงศิลปะ วัฒนธรรม ท่องเที่ยว และอาหารไทย

ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดประชุมระดับโลก และประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ผ่านการแสดงศิลปะ วัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว อาหารไทย ในงานเลี้ยงต้อนรับที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 และทุก ๆ รอยยิ้มจากประชาชนคนไทย ในทุก ๆ กิจกรรม

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ "มาดามแป้ง" นายกสมาคมฯ ได้ส่งต่อ Soft Power ด้วยการมอบผ้าไหมยกดอกลำพูน ให้แก่ Leena Al Ashqar คู่สมรสของจานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า ซึ่งเธอได้นำไปตัดเย็บสวมใส่ในงานประชุม FIFA Congress 2024 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา มีภาพปรากฏออกไปสู่สายตาผู้คนที่รับชมการถ่ายทอดสดการประชุมทั่วโลก อีกทั้งยังใส่มาร่วมงานเปิดอาคารที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในช่วงบ่ายอีกด้วย

ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยมีโอกาสได้จัดอีเวนต์ระดับโลกไปเพียงแค่สองครั้งเท่านั้นก็คือ ฟุตซอลโลก ในปี 2012 และฟุตซอลหญิงชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อปี 1999

"บราซิล" ชาติแรกในอเมริกาใต้ ชนะโหวตเจ้าภาพบอลโลกหญิง 2027

ฟีฟ่า คองเกรส หรือ การประชุมสุดยอดผู้นำองค์กรฟุตบอลจากทั่วโลก นำโดยจานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า พร้อมด้วยผู้นำองค์กร จาก 6 ทวีป ทั้ง เอเอฟซี ยูฟ่า คอนเมโบล ซีเอเอฟ คอนคาเคฟ และโอเอฟซี พร้อมกับผู้นำจาก 211 ชาติสมาชิก รวมถึงบรรดาเหล่าตำนานนักฟุตบอลระดับโลก จะมารวมตัวกัน เพื่อประชุมร่วมกันในการยกระดับกีฬาฟุตบอล และหารือในวาระสำคัญต่าง ๆ ของโลกลูกหนัง โดยในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2027 ก่อนที่ประเทศบราซิลจะชนะโหวต กลุ่มประเทศยุโรป (BNG) เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี 119 คะแนน ต่อ 78 คะแนน ทำให้บราซิล ได้ชื่อว่าเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกาใต้ที่เตรียมเป็นเจ้าภาพฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก

รวมวาระสำคัญเกิดขึ้นในประเทศไทย

  • ทัวร์นาเมนต์ ฟุตซอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIFA Futsal Women's World Cup 2025 จะจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2025 โดย ประเทศฟิลิปปินส์
  • ทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (FIFA U-17 Women's World CUp 2025-2029) โดยจะจัดขึ้นที่ประเทศโมร็อคโค โดยแบ่งสล็อตแต่ละทวีป ดังนี้ เอเอฟซี 4 สล็อต, ซีเอเอฟ 5 สล็อต, คอนคาเคฟ 4 สล็อต, คอนเมโบล 4 สล็อต, โอเอฟซี 2 สล็อต และยูฟ่า 5 สล็อต
  • ทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (FIFA U-17 World Cup 2025-2029) จะจัดที่ประเทศกาตาร์ โดยแบ่งสล็อตแต่ละทวีป ดังนี้ เอเอฟซี 9 สล็อต, ซีเอเอฟซี 10 สล็อต, คอนคาเคฟ 8 สล็อต, คอนเมโบล 7 สล็อต, โอเอฟซี 3 สล็อต, ยูฟ่า 11 สล็อต
  • ทัวร์นาเมนต์ FIFA Arab Cup ที่เสนอโดย สมาคมฟุตบอลกาตาร์ และ กาตาร์ จะเป็นเจ้าภาพ ในปี 2025, 2029 และ 2033 ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามหลักการในการเชิญตัวแทนแต่ละชาติ ซึ่งจะไม่ได้อยู่ในปฏิทินฟีฟ่า เดย์

ตำนานนักเตะระดับโลกกับกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจเด็กและเยาวชน

นอกจากการประชุม ฟีฟ่า คองเกรส แล้ว ประเทศไทยยังได้รับสิ่งดี ๆ มากมาย ทั้งการจัดกิจกรรม FIFA For School ที่จัดขึ้นควบคู่กัน เพื่อช่วยพัฒนาเหล่าผู้ฝึกสอน และครู โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ได้นำศาสตร์ลูกหนังไปส่งต่อให้เด็กและเยาวชนจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงกิจกรรม Football Legacy ที่ฟีฟ่าได้นำเหล่าบรรดา ตำนานนักเตะชื่อดังระดับโลก อาทิ หลุยส์ ฟิโก้, มาร์กอส คาฟู, ซาห์มี เคดีรา, เวสลีย์ ชไนเดอร์, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ และยูริ จอร์เกฟ มาร่วมเล่นฟุตบอลกับน้อง ๆ เยาวชน ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ผ่านทางกีฬาฟุตบอล ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับ เยาวชน ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาฟุตบอลในอนาคต

เชื่อได้เลยว่า ฟุตบอลปัจจุบันไม่ใช่แค่กีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด เพราะอย่างที่ทราบการประชุมในครั้งนี้ ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ มากมายจากแขกผู้มาเยือนที่เดินทางเข้ามากว่า 3,000 คน ดังนั้น เมื่อเขาเหล่านั้นได้รับความประทับใจ จึงมีโอกาสที่จะเดินทางกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง ในภาคของการท่องเที่ยวและการประสานงานในด้านต่างประเทศ และมีโอกาสที่ประเทศไทย จะได้จัดทัวร์นาเมนต์สำคัญ ๆ อีกมากมาย รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ เพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกันในอนาคต

สิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับหลังจาก ฟีฟ่า คองเกรส

การประชุม FIFA Congress 2024 ครั้งนี้ นับเป็นการก้าวไปอีกก้าวของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 109 ภายใต้การบริหารของ "มาดามแป้ง" ในการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพนอกสนามที่ได้ส่งความสำเร็จไปสู่สายตาชาวโลกเป็นที่ประจักษ์เรียบร้อยแล้ว

สุดท้ายนี้ ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อประเทศไทย ขอบคุณรัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทุกหน่วยงานของภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชาวไทย ที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีร่วมกัน จน "ประสบความสำเร็จร่วมกัน" รวมถึงขอขอบคุณสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่เชื่อมั่นประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพ ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ที่ให้การสนับสนุน สมาคมฯ อย่างเต็มที่