TPIPP ประกาศงบไตรมาส 2 ดีขึ้น พร้อมยืนยันเดินหน้าสู่สังคมไร้คาร์บอน
TPIPP มีกำไรในไตรมาส 2 ปี 2567 สูงขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2567 โดยในไตรมาส 2 มีรายได้อยู่ที่ 2,786 ล้านบาท สูงขึ้น 147 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 จาก 2,639 ล้านบาท ในไตรมาส 1 นอกจากนั้นกำไรสุทธิของไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 858 ล้านบาท สูงขึ้น 158 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.6 จาก 699 ล้านบาทในไตรมาส 1
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ในวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผลประกอบการของไตรมาส 2 ปี 2567 ดีขึ้นจากผลประกอบการของไตรมาส 1 ปี 2567 โดยในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ 2,786 ล้านบาท ดีขึ้น 147 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 จาก 2,639 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ในส่วนของกำไร/ขาดทุนนั้น ผลประกอบการดีขึ้น จากช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 858 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2567 สูงขึ้น 159 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.7 จาก 699 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2567 เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับสิ่งที่ข่าวสารที่สื่อสารออกมาจากทางบริษัทฯ ตลอดปี 2565 – 2567 ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่บริษัทฯ มีการจัดการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนวัตถุดิบของโรงไฟฟ้า จากการใช้เชื้อเพลิงจากขยะ แทนที่เชื้อเพลิงถ่านหิน ซึ่งเชื้อเพลิงจากขยะมีความผันผวนของราคาน้อยกว่า
นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า Adder ที่หมดไปมีเพียงร้อยละ 40 โดยบริษัทฯ ยังสามารถขายไฟฟ้าได้ในราคาค่าไฟฐาน ไม่มีส่วนลดใดๆ และบริษัทฯ ยังรับ Adder ที่เหลืออีก ร้อยละ 60 อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นทางบริษัทฯ ได้พยายามสื่อสารว่า การเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงขยะทำให้ต้นทุนลดลง เนื่องจากวัตถุดิบของโรงไฟฟ้าขยะไม่ได้ผันผวนเหมือนโรงไฟฟ้าถ่านหิน กอปรกับการที่ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ สูงขึ้น กอปรกับการที่บริษัทฯ ได้ลงทุนในโซลาร์ฟาร์ม (Solar Farm) และหลังคาโซลาร์ (Solar Rooftop) โดยในไตรมาส 3 ของปี 2567 จะเริ่มเห็นผล
“กำไรที่เติบโตขึ้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ได้คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะทางบริษัทฯ ได้ทำ projection ด้วยโมเดลการเงินของบริษัทฯ เอง โดยไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขอะไร ผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 2 ควรจะดีกว่าในไตรมาส 1 ดังนั้นกำไรที่โตขึ้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ได้คาดคะเนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยข้อกฎหมายทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการได้ก่อนผ่านการตรวจทาน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เปลี่ยนโรงไฟฟ้าถ่านหินบางส่วน ให้มาใช้เชื้อเพลิงขยะแล้ว และกำลังดำเนินการเปลี่ยนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหลือทั้งหมดให้เป็นโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งการเปลี่ยนเชื้อเพลิงในครั้งนี้บริษัทฯ ทำประโยชน์ให้สองประการ เพราะนอกจากช่วยเรื่องต้นทุนการผลิตแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัท ทีพีไอ โพลีน ที่ต้องการจะเป็น Carbon-Free group of companies หรือกลุ่มบริษัทที่จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนเลย ตามโปรแกรม Journey to Net Zero ของทางบริษัทฯ นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้ลงทุนในเรื่อง Solar Farm และ Solar Rooftop เป็นการช่วยผลประกอบการของบริษัทฯ อีกทางหนึ่ง และยังไม่ขัดต่อนโยบาย Carbon-Free group of companies ของกลุ่มอีกด้วย” นายภัคพล กล่าว