ในหลวง พระราชินี พระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.ระนอง
ในหลวง พระราชินี ทรงห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย จ.ระนอง ในโอกาสนี้ โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันนี้ (25 ก.ค.66) เวลา 10.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,929 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ซึ่งตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดระนอง ณ หอประชุมเทศบาลตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
ในโอกาสนี้ องคมนตรี เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบกับลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จำนวน 5 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา
ในการนี้ องคมนตรี เชิญพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการป้องกันภัยและเมื่อเกิดภัยพิบัติ อาทิ การแจ้งเตือน การวางแผน การซักซ้อมแผน และการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงานในการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ราษฎรไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง น้อมนำไปปรับให้เข้ากับแผนในการปฏิบัติของแต่ละหน่วย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งรับฟังรายงานการเกิดเหตุอุทกภัย การแก้ไข รวมทั้งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
จังหวัดระนอง ได้รับอิทธิพลจากความกดอากาศต่ำกำลังแรงแพร่ปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอต่างๆ เมื่อวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2566 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลทำให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมลำห้วย คลอง ถนน พื้นที่ทางการเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่อำเภอเมืองระนอง อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ รวม 5 อำเภอ 26 ตำบล 86 หมู่บ้าน และประชาชนได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 2,850 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆเป็นการเร่งด่วนด้วยแล้ว