ท่านอ้น ท่านอ่อง ลาเมืองไทยกลับสหรัฐฯ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง

วันนี้ (14 ส.ค.66) เวลา 23.13 น. ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ พร้อมด้วย ท่านอ่อง นายแพทย์ จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ สองโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินทางมาถึงอาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อกลับสหรัฐอเมริกา ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน อีเค 377 เวลา 02.50 น.ของวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนร่วมบันทึกภาพและรายงานข่าวดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ท่านอ้น ยกมือไหว้และเปิดใจกับสื่อมวลชนโดยมีท่านอ่อง นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ ยืนอยู่ข้างๆ ว่า กราบสวัสดีครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากที่มาส่งพวกเรานะครับ ขอโทษที่มาดึกหน่อย ทุกคนอาจจะง่วง ขอบคุณมากครับที่มาส่ง อาทิตย์ที่ค่อนข้างยุ่งเหยิงเราก็มาแค่ไม่กี่วัน ผมมาแค่ 7-8 วัน น้องก็มา 3-4 วัน ก็เป็นอาทิตย์ที่ไปค่อนข้างเร็ว มีหลายอย่างที่เราอยากทำอยากดูที่เมืองไทย 

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ใจเราต้องการอยากจะเติมให้เต็ม แต่เวลาก็น้อยเกินไป ตั้งแต่มาที่ประเทศไทยคราวนี้ก็ได้ความรักความอบอุ่นจากทุกคนที่พบเจอ ได้พบเจอกับคนไทยที่หลากหลายวิถีชีวิตอได้คุยกับเขาค่อนข้างใกล้ชิด ได้เรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับเพื่อนชาวไทยของเราในประเทศนี้นะครับ หลังจากที่จากกันมานานก็ได้เติมเต็มในหัวใจ อะไรที่มันเป็นช่วงโหว่ในหัวใจก็เติมเข้ามาให้เต็ม เป็นความรู้สึกที่ดีเป็นอย่างมาก

เราก็เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยของวันนี้ กับประเทศไทยเมื่อ 27 ปีที่แล้วเป็นที่ที่ต่างกันนะครับ อะไรที่อยู่ในความสนใจของผมตอนเด็กๆก็อาจจะไม่อยู่แล้ว ก็มีอะไรใหม่ๆเพิ่มเข้ามาแทน ก็ไม่ได้แปลว่าเมืองไทยดีขึ้นหรือแย่ลง แต่มันแค่เปลี่ยนแปลงไป ผมหวังว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีแต่ความหวัง ชาวไทยมีแต่ความหวัง ความรัก และความเคารพซึ่งกันและกัน จงให้เกียรติซึ่งกันและกัน จงฟังซึ่งกันและกันไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม ในเมื่อเราเป็นคนไทย เพื่อนพี่น้องชาวไทยด้วยกันเราก็น่าจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ฟังซึ่งกันและกัน มีความรักซึ่งกันและกัน ใครผิดใจกันก็ขอให้อโหสิกัน หันเข้ามาหากัน 

ผมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (น้ำตาคลอ-เสียงสั่นเครือ) สำนึกในพระคุณของประเทศชาติ ดีใจที่เกิดมาในประเทศไทย คราวนี้ต้องจากไปอีกแล้ว แต่ก็หวังว่าในอนาคตผมกับน้องๆ กับครอบครัวก็จะได้กลับมาเยี่ยมในเมืองไทยอีกหนหนึ่งนะครับ

หวังว่าอีกไม่นาน ช่วงเราไม่อยู่นี้ขอให้ทุกคนช่วงปกป้องรักษาประเทศไทยไว้ให้เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ได้บนความยุติธรรม ความเสมอภาค รักกันสามัคคีกัน แล้วก็หวังว่าจะมาใหม่ในเร็วๆนี้นะครับ คราวหน้าก็อยากจะมากราบสวัสดีทุกคนอีกครั้งหนึ่งนะครับ ขอบคุณมากนะครับ

หลังจากเปิดเผยความรู้สึกแก่สื่อมวลชนแล้ว ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ และท่านอ่อง นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ เดินไปที่เค้าน์เตอน์สายการบิน เอมิเรตส์ เพื่อทำการเช็กอินตั๋วเครื่องบิน เมื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเดินเข้าไปภายในเกตท์ ทั้งนี้คณะสื่อมวลชน และประชาชนที่ทราบข่าวและมาส่ง อวยพรให้ท่านอ้น ท่านอ่อง “เดินทางปลอดภัย” และ “กลับมาใหม่นะคะ” โดยท่านอ้นโบกมืออำลาทุกคน
 

ทั้งนี้ การมาเยือนประเทศไทยของท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ เริ่มขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566 โดยปรากฏตัว ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ท่ามกลางความยินดีของผู้ที่ได้พบเห็น อีกทั้งคนที่ทราบข่าว บันทึกคลิปวีดีโอขณะท่านอ้นออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับเผยแพร่ผ่านสื่อโชเชียลจนติดเทรนด์เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) อันดับหนึ่ง นับเป็นความปลาบปลื้มใจแก่คนไทยเป็นอย่างมาก เกิดกระแสแฮชแทค #ท่านอ้น ที่ผู้คนต่างให้ความสำคัญในการค้นหา อีกทั้งติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวผ่านสื่อทุกแขนงเกี่ยวกับการรายงานข่าวดังกล่าว

เป็นที่ทราบกันดีว่า ท่านอ้น เป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตา ทำงานด้านสาธารณกุศลและส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนา ทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาถึงเมืองไทย จึงไปกราบสักการะพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง รวมทั้งสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองไทยตามศาสนสถานสำคัญอีกหลายแห่ง

นอกจากนี้ ท่านอ้น ทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุและสามเณร ปล่อยปลาที่วัดยานนาวา ประกอบกับช่วงที่อยู่เมืองไทยตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อสองวันที่ผ่านมา

ท่านอ้น ทำบุญถวายสังฆทานและภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ณ วัดโมลีโลกยาราม ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครบ 91 พรรษา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สะท้อนผ่านภาพถ่ายและข้อความถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Vacharaesorn Vivacharawongse ว่า

Happy Birthday to my Grandmother.In 1992 I was ordained as a novice monk in order to dedicate the merit to her. In these pictures her and my father are clipping and shaving my head.

การอุปสมบทของท่านอ้นในครั้งนั้น ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดบวรนิเวศวิหารเมื่อปีพ.ศ. 2535 และในโอกาสที่ท่านอ้นเดินทางมาเมืองไทย จึงกลับไปยังสถานที่ที่มีความผูกพันในวัยเยาว์ ด้วยเพราะยึดมั่นในความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณเป็นสำคัญ

ท่านอ้น กราบสักการะพระพุทธชินสีห์พระอัฐิสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร พระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 9 พระเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ พระบรมสารีริกธาตุและพระไพรีพินาศ เสร็จแล้วสนทนาธรรมกับพระเทพวชิรมุนี เจ้าคณะภาค 8 ธรรมยุตและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมด้วยพระพี่เลี้ยงและคณะสงฆ์ ถ่ายภาพบริเวณทางเข้าคณะตำหนักด้วยความอิ่มเอมใจ

ท่านอ้นยังเปิดใจกับสื่อมวลชน ภายหลังจากเยี่ยมเด็กเล็กและบริจาคสิ่งของให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ใจความตอนหนึ่งว่า

“จากประเทศนี้มานาน 27 กว่าปี ถือเป็นฝันที่เป็นจริงที่ได้กลับมาตั้งแต่เครื่องลงแล้วมองจากนอกหน้าต่างเครื่องบินก็รู้สึกตื้นตันและมีสำนึกถึงพระคุณของประเทศชาติ อยู่เมืองนอกมานาน ไม่เคยลืมเลยว่าเราเป็นคนไทย ไม่เคยลืมความสำคัญของวัฒนธรรมไทย”

ตลอดเวลาที่ท่านอ้นอยู่ในเมืองไทย ได้พบปะเพื่อนๆ ออกไปรับประทานอาหารเจ้าเด็ดเจ้าดังหลายร้าน รวมทั้งอาหารสไตล์สตรีทฟู้ดย่านเยาวราช เข้าคอร์สทำอาหารเมนูต้มข่าล็อบสเตอร์ ขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส เที่ยวอยุธยาอย่างสนุกสนาน 

ขณะที่ ท่านอ่อง จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ เดินทางมาเยือนเมืองไทย แม้เป็นเพียงระยะเวลาเพียงสั้นๆ โดยท่านอ่อง พร้อมกับท่านอ้นไปโรงพยาบาลศิริราช กราบสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ในอาคารศิริราช 100 ปี รวมทั้งกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณด้านข้างของโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ 

อีกทั้ง เปิดใจถึงการกลับมาเมืองไทยโดยในรอบ 27 ปี ผ่านเฟซบุ๊ก Chakriwat Vivacharawongse ว่า

"นี่คือฝันที่เป็นจริงครับ…ที่ผมได้มีโอกาสกลับมากราบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย…ที่ผมเป็นแพทย์ได้ทุกวันนี้เพราะมีพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจ และผมจะขอดำเนินตามรอยพระยุคลบาทในการส่งมอบแรงบันดาลใจนี้ให้แก่นักศึกษาแพทย์ทุกคนต่อไป…

ในขณะเดียวกันมีคลิปวีดีโอที่ท่านอ่องให้รายละเอียดเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการเป็นแพทย์รักษาผู้ป่วยว่า 

"มากราบพระราชบิดา ตอนผมเป็นนักศึกษาแพทย์ พระราชบิดาเป็นแรงบันดาลใจของผม ให้ผมเป็นนักเรียนที่ดี ตอนผมสอบ ผมกราบท่าน ผมมีรูปท่าน อยู่ในห้องนอนของผม ตอนผมเป็นนักเรียน ตอนผมเป็นอาจารย์แพทย์ที่อเมริกา ผมก็บอกนักเรียนของผมว่า เราทุกคนต้องหาแรงบันดาลใจของเรานะครับ และพระราชบิดาเป็นแรงบันดาลใจของผม ท่านก็ทำทุนแก่หมอแก่แพทย์ ให้ประเทศเรามีหมอที่ดี ผมนำมาเป็นแรงบันดาลใจ ตอนนี้ก็ทำ CMIC ศูนย์การแพทย์ Chakriwat ที่อเมริกา (Chakriwat Medical Information Center) 

แล้วผมก็บอกนักเรียน พระราชบิดาเป็น influence ของผม ผมอยากถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักศึกษาของผม เราจะได้มีหมอที่ดีในอนาคตที่ ดูแลคนไข้ของเราได้ วันนี้รู้สึกดีใจมากเลยนะครับ สวัสดีครับ" ท่านอ่องกล่าวจบ แล้วยกมือไหว้

นายแพทย์ จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ เป็นน้องชายของท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ โอรสลำดับที่สามในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันเป็นแพทย์และพำนักในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ก่อตั้ง ศูนย์การแพทย์ Chakriwat Medical Information Center และเป็นเจ้าของช่อง chakriwat vivacharawongse, MD ในยูทูบที่มีผู้ติดตาม 1.8 แสนคน เผยแพร่ความรู้ด้านดูแลสุขภาพแก่คนทั่วไป แม้ท่านอ่องจะอยู่ต่างประเทศแต่ห่วงใยความเป็นอยู่ของคนไทยและชาวต่างชาติเสมอ โดยช่วงเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดทั่วโลก ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง ท่านอ่องผลิตวีดีโอบรรยายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยรวมทั้งตอบคำถามเกี่ยวกับโรคต่างๆ มาแล้ว 166 รายการ