ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส
ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส บริเวณลานวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) ถ.ศูนย์ราชการ ต.โคกเคียน และทรงเปิดศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) ถ.ศูนย์ราชการ ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส
วันนี้ (30 ก.ย.66) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส บริเวณลานวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลโคกเคียน และทรงเปิดศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานนราธิวาส อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้น พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ
ต่อจากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส บริเวณลานวัฒนธรรม ศาลากลาง จังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
เวลา 17.06 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตรประจำอำเภอเมืองนราธิวาส ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและนางสุบิน จริตงาม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนางโศภิษฐ์ นวลน้อย รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญที่ระลึกพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล (เหรียญทองคำ) และผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ
ต่อจากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์และความเป็นมาของศาลหลักเมือง กับขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส เสร็จแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นยันต์ ทรงม้วนแผ่นยันต์ ทรงสวมแหวนนพรัตน์ที่ม้วนแผ่นยันต์ แล้วพระราชทานคืนให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เพื่ออัญเชิญไปยังศาลหลักเมือง พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลหลักเมืองนราธิวาส แล้วเสด็จขึ้นเกย ทรงบรรจุแผ่นยันต์ลงที่หัวเม็ดทรงมัณฑ์ แล้วทรงสวมยอดหัวเม็ดทรงมัณฑ์ที่ยอดเสาศาลหลักเมือง ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ทรงปิดทอง ทรงผูกผ้าสีชมพู แล้วทรงคล้องพวงมาลัยเสาหลักเมือง พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศาลหลักเมืองนราธิวาส ทรงกราบ
จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) ถนนศูนย์ราชการตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างเสาหลักเมืองและศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 เนื่องในโอกาสครบ 100 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อ “เมืองนราธิวาส” ณ บริเวณลานวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ถนนศูนย์ราชการ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
โดยดำเนินการจัดสร้างเสาหลักเมือง และศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส และประกอบพิธีพุทธาภิเษกและอัญเชิญเสาหลักเมืองประดิษฐาน ณ ศาลหลักเมือง ตามโบราณราชประเพณี เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนเมษายน พุทธศักราช 2566 เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นศูนย์รวมจิตใจเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและที่เคารพสักการะของประชาชนจังหวัดนราธิวาสสืบไป