กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงออกปฏิบัติงานหน่วยแพทย์ พอ.สว. จังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ เสด็จไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทรงเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ พอ.สว. ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ และขอนแก่น
เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงมุ่งมั่นปฏิบัติพระกรณียกิจเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนชาวไทยเสมอมา ด้วยทรงห่วงใยปัญหาสุขภาพอนามัยของประชาชนชาวไทยที่เจ็บป่วยยากไร้ และห่างไกลจากวิทยาการทางการแพทย์อันทันสมัย
จึงทรงอุทิศพระองค์ พระราชทานการรักษา และส่งเสริมให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีมาตรฐานกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ผ่านการดำเนินงานของมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ที่มีบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ร่วมผนึกกำลังปฏิบัติงานตามพระปณิธานฯ ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิ พอ.สว. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา
นับเป็นเวลากว่าทศวรรษ ที่ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่เพื่อสืบสานการดำเนินงาน ของมูลนิธิ พอ.สว. ด้วยความมุ่งหวังให้ประชาชนชาวไทย มีสุขภาวะที่ดีและแข็งแรง จึงได้เสด็จไปทรงเยี่ยมดูแลทุกข์สุข และความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนทรงติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ พอ.สว. ประจำจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ดังการเสด็จไปทรงเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ พอ.สว. ประจำจังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ และขอนแก่น ระหว่างวันที่ 20 - 24 ตุลาคม 2566
เมื่อพสกนิกรในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้ทราบข่าวการเสด็จมาในครั้งนี้ ต่างมีความปลื้มปีติ และพร้อมใจกันมาเฝ้ารอชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของประชาชนอย่างหาที่สุดไม่ได้ โดยตลอดเส้นทางที่ได้เสด็จผ่าน ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น
ในการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. แต่ละพื้นที่ในครั้งนี้ มีประชาชนที่เจ็บป่วยเดินทางเข้ามาเพื่อขอรับบริการตรวจรักษาเป็นจำนวนมาก โดยมีตั้งแต่ผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคพื้นฐานทั่วไป จนถึงโรคที่ซับซ้อน ยากต่อการรักษา และมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง จึงจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนผู้เจ็บป่วยและด้อยโอกาสได้เข้ารับการบำบัดรักษาโรคให้สามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุข
ในการนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้แพทย์ผู้ทำการตรวจรักษานำผู้ป่วยด้อยโอกาสและยากไร้ เฝ้า ซึ่งป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่มีความรุนแรงต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคมะเร็งจอตา โรคมะเร็งเต้านม โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคสมองพิการ เป็นต้น โดยทรงได้ซักถามถึงอาการและความเป็นอยู่ของผู้ป่วยด้วยความห่วงใย พร้อมกับทรงมีพระวินิจฉัยร่วมกับแพทย์ เพื่อหาแนวทางการรักษาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ ตลอดจนทรงพระเมตตารับไว้เป็นคนไข้ในพระอนุคราะห์ เพื่อให้มีโอกาสได้รับการรักษาอย่างดีที่สุดในโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่มีความพร้อมด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย
อีกทั้งได้พระราชทานเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิจุฬาภรณ์แก่ผู้ป่วยในพระอนุเคราะห์สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเดินทางไปรักษาตัว และดำรงชีพในเบื้องต้นต่อไป พระราชทานการรักษาพยาบาลและให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนผู้เจ็บป่วยในพื้นที่อย่างทั่วถึงแล้ว ยังได้พระราชทานเครื่องแบบนักเรียนแก่ผู้แทนนักเรียน และชุดของเล่นเด็กที่เสริมพัฒนาการเรียนรู้ พร้อมสมุดวาดภาพระบายสีแก่เด็กเล็กด้วย
พร้อมกันนี้ พระราชทานเข็มเครื่องหมายกรรมการ อนุกรรมการแก่ผู้แทนกรรมการ และอนุกรรมการ พอ.สว. และพระราชทานเข็มเครื่องหมาย พอ.สว. เข็มพระนามาภิไธยย่อ สว. และโล่ แก่อาสาสมัคร พอ.สว. ผู้ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเทเสียสละ และอุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยไม่มุ่งหวังผลตอบแทน
โอกาสนี้ ทรงนำสมาชิก พอ.สว. ร่วมขับร้องเพลงพระนิพนธ์ “เลือดหยดเดียว” พร้อมพระราชทานพระดำรัสชื่นชมการปฏิบัติงานของคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มูลนิธิ พอ.สว.ทุกคน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และทรงเน้นย้ำถึงการทำงานต้องครองด้วยสติอยู่เสมอ เพื่อประชาชนชาวไทยและประเทศชาติ ดังพระดำรัสที่มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า...
“ ...การทำดี เป็นของดีอยู่แล้ว แต่ที่จะทำงานทุกอย่างให้สำเร็จเสร็จสิ้นด้วยดี และไม่มีพลาดพลั้ง สิ่งที่ทุกคนต้องมี ประดับไว้ในใจ คือ สติ ถ้าเรามีสติ เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ งานจะออกมาดี ไม่ผิดพลาด คนที่ขาดสติ ก็จะทำงานผิดพลาดอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นขอให้ชาว พอ.สว. มีสติ อยู่เสมอ…”
พระดำรัสพระราชทานแก่ สมาชิก พอ.สว. ณ โรงเรีนรอนุบาลนครจัมปาศรี อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พุทธศักราช 2566
สำหรับการออกปฏิบัติงานหน่วยแพทย์ พอ.สว. ของพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ และขอนแก่น ในครั้งนี้ โปรดให้ โรงพยาบาลประจำจังหวัด และโรงพยาบาลประจำท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ เช่น โรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลนาดูน โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และโรงพยาบาลน้ำพอง เป็นต้น ร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข แก่ประชาชนผู้เจ็บป่วย ประกอบด้วย
การตรวจสุขภาพและรักษาโรคทั่วไป ตรวจสุขภาพตา บริการด้านทันตกรรม บริการให้คำปรีกษาปัญหาสุขภาพจิต บริการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน รวมทั้งบริการแพทย์แผนไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาของการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. ในครั้งนี้ มีประชาชนผู้เจ็บป่วยมารับบริการตรวจรักษา รวมทั้งหมด 1,161 คน ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ที่พบ อาทิ โรคกล้ามเนื้อและกระดูก โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบหัวใจ
นับเป็นพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีพระเมตตาและทรงห่วงใยในสุขภาพอนามัยแก่ประชาชนเสมอมา ด้วยทรงตระหนักว่าสุขภาพพลานามัยอันดีของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพไว้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป