ในหลวง พระราชทานถุงพระราชทาน แก่ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่เขตธนบุรี
ในหลวง โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี เชิญเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสาธารณภัย ถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ญาติครอบครัวผู้เสียชีวิตและมอบแก่ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่เขตธนบุรี ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสาธารณภัย ถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ญาติครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้แก่ประสบอัคคีภัย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันนี้ (7 มีนาคม 2567) เวลา 10.00 น. ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ และอาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสาธารณภัย ถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ญาติครอบครัวผู้เสียชีวิตและมอบแก่ผู้ประสบอัคคีภัย จำนวน 33 ครัวเรือน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหัวหน้าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมในพิธี
ในโอกาสนี้ องคมนตรี เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบอัคคีภัยได้รับทราบ ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ในการนี้ องคมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจดูสถานที่เกิดเหตุ บริเวณถนนเทศบาล สาย 2 แขวงวัดกัลยาณ์ และเยี่ยมศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณวัดบุปผาราม แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี โดยเหตุอัคคีภัยดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 09.56 น. เป็นบ้านไม้ปลูกติดกันอยู่ในชุมชน ทางเข้า-ออกคับแคบ
ประกอบกับขณะเกิดเพลิงไหม้มีลมกระโชกแรง จึงทำเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยหน่วยบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงได้ระดมช่วยกันดับเพลิง ซึ่งเพลิงสงบลงเมื่อเวลา 10.42 น.ทำให้มีบ้านเรือนราษฎรเสียหายทั้งหลัง 12 หลังคาเรือนและเสียหายบางส่วน 7 หลังคาเรือน ราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ จำนวน 33 ครัวเรือน 75 คน
ทั้งนี้ องคมนตรี ได้ให้คำแนะนำแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจกับราษฎรที่ประสบอัคคีภัยเพื่อให้มีขวัญและกำลังใจในการดำรงชีพต่อไป