ในหลวง - พระราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดปัตตานี

วันนี้ (27 กันยายน 2567) เวลา 17.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่ อําเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวสนามกีฬากลาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

 

เวลา 18.32 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ณ ที่นั้น มีนายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

แล้วเสด็จเข้าห้องโถงมัสยิดกลาง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายฮับกี กาดามุง ผู้ชนะเลิศการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ประจำปี 2566 อัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และนายสมาน ก้อพิทักษ์ แปลความหมายเป็นภาษาไทย

จากนั้น พระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับภาคใต้ และระดับประเทศ ครั้งที่ 17 ประจำปี 2567 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2567 เพื่อสนับสนุนให้ชาวไทยมุสลิมได้รู้หลักธรรมคำสอนในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานอย่างถ่องแท้และปฏิบัติอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคี ความสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่น้องมุสลิมและต่างศาสนิก ตลอดจนเพื่อให้นักกอรีจากทุกภาคของประเทศไทยได้เข้าร่วมการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน มีผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศ รางวัลชมเชย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานถ้วยรางวัล 12 คน และคณะกรรมการ, ผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานโล่ที่ระลึก 24 คน

โอกาสนี้ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี สวดดูอาร์บทถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้นมีพระราชปฏิสันถารกับผู้นำศาสนาอิสลาม

 

ทรงพระดำเนินไปยังบริเวณด้านข้างมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดแสดงโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันมี จำนวน 43 โครงการ ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส 24 โครงการ จังหวัดปัตตานี 7 โครงการ และจังหวัดยะลา 12 โครงการ

นิทรรศการโครงการกองทุนการศึกษา "ให้โรงเรียนสร้างคนดี ให้บ้านเมือง" ซึ่งจังหวัดปัตตานี มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 2 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านวังกว้าง และโรงเรียนบ้านตะโละไกรทอง โดยดำเนินโครงการตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ด้าน คือ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง, มีพื้นฐานมีชีวิตที่มั่นคง - มีคุณธรรม, มีงานทำ - มีอาชีพ และเป็นพลเมืองที่ดี มุ่งเน้นสร้างพื้นฐานที่ดีแก่นักเรียน เสร็จแล้ว

จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปตรวจรักษาราษฎรในพื้นที่ และมีพระราชปฏิสันถารกับครอบครัวผู้ป่วย ทรงซักถามด้วยความห่วงใย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก

และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน "ถุงพระราชทานสำหรับเด็ก" ซึ่งทรงจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็ก อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับนำไปใช้ในครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ในการนี้ ทรงรับผู้ป่วยไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวน 6 คน ซึ่งป่วยด้วยโรคเท้าผิดรูป ชนิดเท้าบิดเข้าด้านในทั้งสองข้างตั้งแต่กำเนิด, โรคสมองพิการตั้งแต่กำเนิด, พัฒนาการช้ารอบด้าน และตาบอดทั้ง 2 ข้าง, โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์, โรคภาวะพิการขาขาดระดับใต้เข่าขาขวา จากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์, โรคเส้นเลือดหัวใจตีบทั้ง 3 เส้น และกลุ่มโรคอาการพาร์กินสัน กับนิวในไตข้างซ้าย กรวยไตข้างซ้ายและในกระเพาะปัสสาวะ

และทรงเยี่ยมประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากพื้นที่อำเภอต่างๆ ในจังหวัดปัตตานี เช่น อำเภอยะหริ่ง อำเภอทุ่งยางแดง และอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม

ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารฮาลาลปรุงสุกใหม่และถูกสุขอนามัยจัดทำเป็นอาหารกล่อง พระราชทานแก่ราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จด้วย

สมควรแก่เวลา ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

เวลา 19.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจําปี 2566 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล จำนวน 6 คน, อิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจําปี 2566 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล จำนวน 25 คน

ซึ่ง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณและ เงินรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในคราวเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ในช่วงเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคมของทุกปี มาตั้งแต่ปี 2526 เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ สร้างขวัญกำลังใจแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจและมีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับทางราชการและประเทศชาติ รวมทั้งเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครูและนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ที่ได้รับการคัดเลือกประจำปี 2566 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัล จำนวน 33 คน

โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินงานพัฒนาโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม มาตั้งแต่ปี 2504 โดยจัดกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุนด้านวิชาการ และสื่อการเรียนการสอน อันเป็นภารกิจสำคัญในการสนองพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการส่งเสริมโรงเรียนสอนหนังสือศาสนาอิสลาม ที่มีผลงานดีเด่นด้านการจัดการศึกษา และนักเรียนมีความประพฤติดี ซึ่งคัดเลือกสถานศึกษา บุคลากร และนักเรียนที่มีคุณสมบัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด รับรางวัลพระราชทาน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้บริหาร ครู และนักเรียน

โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสแก่กรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม และครู นักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดภาคใต้ ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2566

"ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดี ที่ได้มามอบรางวัลแก่กรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดภาคใต้ ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปีนี้ การที่ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติหน้าที่ของตน ทั้งในการแนะนำสั่งสอนศาสนิกชน และให้การศึกษาอบรมแก่เยาวชน ด้วยความอุตสาหะเสียสละ และสุจริตซื่อตรงมาโดยตลอดนั้น นับว่าเป็นการทำงานเพื่อประเทศชาติโดยแท้ ทั้งนี้ เพราะการสร้างและพัฒนาคน ให้เป็นผู้ที่เข้าใจหลักธรรมของศาสนา มีความรู้ในหลักวิชา และประพฤติตนปฏิบัติงานได้เหมาะสมถูกต้องตามหลักวิชาและหลักธรรมอย่างแท้จริง ย่อมเป็นการเสริมสร้างความเจริญมั่นคงให้แก่สังคมและชาติบ้านเมืองอย่างดีที่สุด จึงขอแสดงความชื่นชมกับทุกท่านที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ ทั้งขอชมเชยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการ ที่สนับสนุนงานของกรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ด้วยดีตลอดมา หวังว่าทุกท่านจะร่วมแรงร่วมใจกัน ปฏิบัติงานอันทรงคุณค่านี้ต่อไป ด้วยความสุข ความภาคภูมิใจ และความเมตตาสามัคคี ขออำนวยพรให้ทุกท่าน มีพลานามัยสมบูรณ์ และมีความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการ"

จากนั้นเวลา 20.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจอีกแห่งหนึ่งของชาวปัตตานี

โดยมีราษฎรจังหวัดปัตตานี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พร้อมใจกันเปล่งเสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และปลื้มปีติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ด้วยทรงทำนุบำรุงกิจการของศาสนาอิสลามในประเทศไทย ในฐานะที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทรงเกื้อกูล ค้ำจุนทุกศาสนา ภายใต้พระบรมโพธิสมภารอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร