ในหลวง-ราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ วันปิยมหาราช 2567

วันนี้ (23 ตุลาคม 2567) เวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ พระลานพระราชวังดุสิต เนื่องใน "วันปิยมหาราช" พุทธศักราช 2567

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย

 

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์

วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยพระองค์ทรงเป็นที่รักและเทิดทูนยิ่งของประชาชนทุกหมู่เหล่า

พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร นั้น เป็นพระบรมรูปที่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ พ่อค้า คหบดี และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ร่วมใจกันจัดสร้างขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 5 ในมหามงคลสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติยาวนาน 40 ปี เมื่อพุทธศักราช 2451 ที่ฐานของพระบรมรูปมีแผ่นโลหะจารึกข้อความเทิดพระเกียรติ พร้อมทั้งถวายพระราชสมัญญาว่า "สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงปิยมหาราช" อันมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย"

จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล "วันปิยมหาราช" พุทธศักราช 2567 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

 

เวลา 17.37 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันปิยมหาราช พุทธศักราช 2567

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระอัฐิสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี, สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ซึ่งประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบ

ต่อจากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระอัฐิสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี, สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ซึ่งประดิษฐานที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย

เมื่อพระสงฆ์ 57 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่จงกลธรรมาสน์ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร สำหรับพระบรมอัฐิและพระอัฐิ ทรงธรรม ทรงศีล

เมื่อ พระธรรมวชิโรดม เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง นาถกรณธรรมกถา จบ ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงทอดผ้าไตร 18 ไตร พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์และถวายพระธรรมเทศนา สดับปกรณ์พระบรมอัฐิและพระอัฐิ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีกเที่ยวละ 20 รูป จำนวน 2 เที่ยว จากนั้นทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดัปกรณ์ ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนครบ 2 เที่ยว

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2396 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2411 ตลอดพระชนม์ชีพ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อพัฒนาประเทศชาติและเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย อาทิ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการเลิกทาส, ทรงพัฒนาความเจริญก้าวหน้าในการศึกษา, การศาล, การต่างประเทศ, การสาธารณูปโภค, การแพทย์และการสาธารณสุข

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พุทธศักราช 2453, ทรงครองราชย์ นานถึง 42 ปี ต่อมาทางราชการได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวันที่ระลึกสำคัญของชาติเรียกว่า "วันปิยมหาราช" และกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ