“ฝ่ายค้าน”วาง6กรอบซักฟอก-เคาะยื่นญัตติหลังกฎหมายลูกเลือกตั้งผ่านวาระ3

“ฝ่ายค้าน”วาง6กรอบซักฟอก-เคาะยื่นญัตติหลังกฎหมายลูกเลือกตั้งผ่านวาระ3

“ฝ่ายค้าน”เคาะยื่นซักฟอกหลังกฎหมายลูกเลือกตั้งผ่านวาระ3 เล็งชำแหละ นายกฯ-รัฐมนตรี รายคน วาง 6 กรอบไม่วางใจการทำงานรัฐบาล

วันนี้มีการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายภูมิธรรม เวชยชัย กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย  นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง ตัวแทนพรรคเพื่อชาติ นายสุพจน์ อาวาส ตัวแทนพรรคประชาชาติ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 โดยที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันในกรอบเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นประเด็นดังนี้  1. เนื้อหามุ่งเน้นไปที่ความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม 

2. จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฏหมาย ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม 3. การทุจริตต่อหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง 4. ไม่ปฎิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา 5. การละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ 6. การทำลายประชาธิปไตย และระบบรัฐสภา 
 

นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นร่วมกันว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งขณะนี้แต่ละพรรคได้รวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมทั้งประเด็นการอภิปราย เอกสารและหลักฐานเรียบร้อยแล้ว 

โดยจะมีการยื่นญัตติให้เร็วที่สุด ซึ่งเวลาที่เหมาะสมคือ ภายหลังจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ในวาระที่ 3 แล้ว 
 

เนื่องจากเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีกฏหมายสำหรับใช้ในการเลือกตั้งเมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจยุบสภาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหากการยุบสภาเกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะแล้วเสร็จ อาจทำให้เกิดทางตันหรือเดดล็อกทางการเมือง 

ทั้งนี้ที่ประชุมก็ได้มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ยกร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เพื่อนำเสนอที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อพิจารณาต่อไป