7 ปีปฏิบัติการปราบ “ค้ามนุษย์” ขุดรากไม่ถอนโคน
สถิติคดีค้ามนุษย์ 7 ปี ตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 66.71% - 74.41% แม้จะมีการจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น และเครือข่ายไปแล้วจำนวนไม่น้อย แต่ตัวเลขก็ไม่ได้ลดลงจนเป็นนัยสำคัญ
ภายในปีนี้ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ตั้งเป้าจะกู้ภาพลักษณ์ของไทย และเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเทอมสุดท้ายก่อนจะยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่
ด้วยการขยับปัญหาค้ามนุษย์ไทยให้ขึ้นเทียร์ 2 กลุ่มประเทศที่ดำเนินการยังไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำโดยสมบูรณ์ แต่มีความพยายามปรับปรุงแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ หลังปีที่แล้วตกอันดับไปอยู่ในกลุ่มเทียร์ 2 เฝ้าระวัง (Tier 2 Watch List)
เปิดช่องให้ “พรรคก้าวไกล” ดิสเครดิตรัฐบาลมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาในเวทีอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ และมีแนวโน้มลากยาวไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
ปัญหา “ค้ามนุษย์” กลายเป็นประเด็นร้อน หลัง รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตั้งข้อสังเกตการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหารและตำรวจ และปริศนาการขอลี้ภัยของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 อดีตหัวหน้าชุดทำคดีโรฮิงญา ปี 2558
พัวพันไปถึงพี่น้อง 3 ป. พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กับ ปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ ในยุค คสช.หลังไทย ถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับเทียร์ 3 คือ ระดับต่ำสุด เมื่อปี 2557-2558 ผ่านการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ด้วยการเร่งแก้ไขปัญหาทุกมิติ
แม้จะส่งผลให้การจัดอันดับ “ค้ามนุษย์” ของไทยดีขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาล คสช. ในขณะนั้น ที่ขยับจากเทียร์ 3 ขึ้นมาเป็นเทียร์ 2 เฝ้าระวัง ในปี 2559 และในปี 2561 เลื่อนขึ้นมาเป็นเทียร์ 2 ถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดของไทยในรอบ 10 ปี ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2563
แต่การปฏิบัติการครั้งนั้นก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไม่น้อย เมื่อหนึ่งในผู้ทำผิดคือ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตระหว่างถูกขุมขังในเรือนจำ ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ท่ามกลางข้อกังขามีคนระดับสูงกว่า พล.ท.มนัส เกี่ยวพันด้วยหรือไม่
ขณะที่หัวหน้าชุดจับกุม พล.ต.ต.ปวีณ ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ เพราะกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย ก่อนจะออกมาให้ข้อมูลมากมาย ว่าถูกกดดันหลายทางจากคนในรัฐบาล โดยเฉพาะมีการอ้างถึงคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร โทรมาล็อบบี้ขอให้ พล.ท.มนัส ได้รับการประกันตัว
จากข้อมูล สํานักแผนงานและงบประมาณ กระทรวงยุติธรรม รายงานสถิติคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ยุค คสช. เมื่อปี 2558 ถึง 2565 ดังต่อไปนี้
ปี 2558 มี 223 คดี (รับใหม่) พิพากษาแล้วเสร็จ 202 คดี จำแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 173 คดี ยกฟ้อง 24 คดี สั่งจำหน่าย 5 คดี
ปี 2559 มี 745 คดี พิพากษาแล้วเสร็จ 497 คดี จำแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 418 คดี ยกฟ้อง 37 คดี สั่งจำหน่าย 42 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 66.71 ของคดีที่เข้าสู่การพิจารณา
ปี 2560 มี 732 คดี พิพากษาแล้วเสร็จ 536 คดี จําแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 463 คดี ยกฟ้อง 55 คดี สั่งจําหน่าย 18 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 73.22 ของคดีที่เข้าสู่การพิจารณา
ปี 2561 มี 662 คดี พิพากษาแล้วเสร็จ 462 คดี จำแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 392 คดี ยกฟ้อง 24 คดี สั่งจำหน่าย 46 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 69.79 ของคดีที่เข้าสู่การพิจารณา
ปี 2562 มี 637 คดี พิพากษาแล้วเสร็จ 474 คดี จําแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 408 คดี ยกฟ้อง 26 คดี สั่งจําหน่าย 40 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 74.41 ของคดีที่เข้าสู่การพิจารณา
ปี 2563 มี 499 คดี พิพากษาแล้วเสร็จ 360 คดี จำแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 317 คดี ยกฟ้อง 22 คดี สั่งจำหน่าย 21 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 72.14 ของคดีที่เข้าสู่การพิจารณา
ปี 2564 มี 402 คดี พิพากษาแล้วเสร็จ 223 คดี จําแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 201 คดี ยกฟ้อง 8 คดี สั่งจำหน่าย 14 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 55.47 ของคดีที่เข้าสู่การพิจารณา
ปี 2565 ตั้งแต่เดือน ม.ค.- มี.ค. มี 277 คดี พิพากษาแล้วเสร็จ 76 คดี จําแนกเป็น คดีที่ศาลพิพากษาลงโทษ 64 คดี ยกฟ้อง 9 คดี สั่งจําหน่าย 3 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 27.44 ของคดีที่เข้าสู่การพิจารณา
จากตัวเลขดังกล่าว จะเห็นได้ว่า สถิติการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดคดีค้ามนุษย์ 7 ปี ตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. จนมาสู่ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง อยู่ที่ 66.71% - 74.41%
แม้จะมีการจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น และเครือข่ายไปแล้วจำนวนไม่น้อย แต่ตัวเลขก็ไม่ได้ลดลงจนเป็นนัยสำคัญ ยกเว้นปี 2564 ลดเหลือ 55.47% แต่ไทยกลับถูกลดอันดับอยู่ในกลุ่มเทียร์ 2 เฝ้าระวัง
เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า ปฏิบัติการกวาดล้างของ คสช. ในครั้งนั้น ได้ขุดรากถอนโค่นขบวนการค้ามนุษย์ได้จริง หรือยังเหลือเครือข่ายที่สาวไปไม่ถึง จนเป็นเหตุให้ “บิ๊กป้อม” ตามแก้ปัญหาไม่จบสิ้นเสียที