“ยุทธพงศ์”จี้นายกฯสอบประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี-ลุยต่อเวทีซักฟอก

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรค พท. ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอีอีซี เพื่อขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสการประมูลท่อส่งน้ำของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ในโครงการอีอีซี ที่มีมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การประมูลงานดังกล่าวมีความไม่โปร่งใส เนื่องจากกรมธนารักษ์ไม่เปิดให้มีการเสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ แต่เป็นการบอกต่อทำให้มีบริษัทเข้าร่วมประมูลเพียง 5 บริษัท และบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ที่เป็นบริษัทคูหาเดียวได้รับงานไปแทนบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ ที่ถือหุ้นใหญ่โดยการประปาส่วนภูมิภาค และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่เป็นหน่วยงานรัฐ 

“ผู้ดำเนินการอยู่ก่อนไม่ได้งานเดิม อีกทั้งยังมีการเร่งรีบให้เซ็นสัญญาในวันที่ 3 พฤษภาคม จึงอยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่าทำไมเปิดประมูลตามปกติเพื่อให้บริษัทยักษ์ใหญ่ได้เข้าร่วมประมูลงาน ถ้าการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นเรื่องนี้ตนจะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน”

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า วันที่ 28 เมษายน ตนมีโอกาสได้รับประทานอาหารร่วมกับนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ซึ่งนายพิเชษฐกล่าวกับตนว่า เคยดำรงตำแหน่งประธานการประปาส่วนภูมิภาค หากเกิดเรื่องเช่นนี้ไม่ยอมแน่นอน จะยอมแตกหักกับรัฐบาล และนายพิเชษฐระบุกับตนว่าได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปกับโฆษกรัฐบาลเพื่อแจ้งเรื่องไปยังนายกฯโดยตรงด้วย 

โดยนอกจากเรื่องนี้ทางกลุ่ม 16 ได้สอบถามตนว่าพรรค พท.มีความพร้อมและเอาจริงกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้หรือไม่ ตนยืนยันว่าพรรค พท.พร้อม และจากการหารือกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. ยืนยันว่าพร้อม และเรื่องที่จะอภิปรายอย่างแน่นอนคือเรื่องเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ การเปิดประมูลท่อส่งน้ำอีอีซีที่ไม่โปร่งใส และเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะอยากจะดูเหมือนกันว่าพรรคการเมืองบางพรรคจะยกมือโหวตอย่างไร แต่สำหรับกลุ่ม 16 ยืนยันกับตนแล้วว่าเรื่องท่อส่งน้ำนี้หากรัฐบาลเดินหน้าจะขอแตกหักกับรัฐบาลอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า กรณีที่มีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า พปชร.เป็นนายกฯ ในช่วงที่เหลือของรัฐบาล พรรค พท.รับได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรค พท. เพราะพรรค พท.เป็นฝ่ายค้าน จะเน้นไปที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อล้มรัฐบาล และไล่ พล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่มา 8 ปี จนทำให้บ้านเมืองเสียหาย ส่วนเรื่องการเป็นนายกฯนั้นมองว่าต้องใช้รายชื่อที่ถูกเสนอโดยพรรคการเมืองก่อน ส่วนการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯนั้นตนมองว่ายังไกลเกินไป 
 

ส่วนการยื่นอภิปรายจะยื่นเมื่อไหร่นั้น ยืนยันว่าพรรค พท.มีความพร้อมและจะอภิปรายหนักกว่าการอภิปรายตามมาตรา 152 เพราะครั้งนี้คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 แต่ช่วงที่จะยื่นนั้นคงต้องหารือกันในวิปฝ่ายค้านก่อน ซึ่งจะพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์”

เมื่อถามว่าตอนนี้หลายพรรคเสนอให้หัวหน้าพรรคของตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในส่วนของพรรคเศรษฐกิจไทยจะเสนอหัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยืนยันเหมือนเดิมว่าคนที่เราจะเสนอต้องเป็นคนที่เคมีตรงกับพรรค ตรงกับแนวคิดเศรษฐกิจไทย ที่สำคัญต้องแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง ความเดือดร้อนของประชาชนได้

เมื่อถามย้ำจะเป็นชื่อของพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยืนยันว่าต้องแก้ปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่มีวิกฤติในขณะนี้ โดยคนที่จะมาเป็นแคนดิเดตฯต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ เมื่อถามว่าใคร ที่มีคุณสมบัติแบบที่พรรคเศรษฐกิจไทยต้องการ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถึงเวลามาเอง เราต้องหาคนที่มีความรู้ความสามารถ

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ ได้ใช่หรือไม่ ร.อ.ธนรมนัส กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ เมื่อถามว่า เมื่อเปิดสภามาแล้วจะเกิดการพลิกขั้วเปลี่ยนข้างทางการเมืองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่งั้นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คงไม่พูดแบบนั้น