“จุรินทร์” อัดปมค่าหัวส.ส.ไม่สะท้อนระบบสภา มั่นใจศึกซักฟอกปชป.ไม่แตกแถว
“จุรินทร์” ชี้ปมค่าหัวส.ส.ไม่สะท้อนวิถีประชาธิปไตย- ระบบสภา มั่นใจศึกซักฟอกปชป.ยึดมติพรรค ไม่มีส.ส.แตกแถว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่อกระแสการซื้อเสียงส.ส. 5-30 ล้านว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ซึ่งวิถีทางการเมืองในประชาธิปไตยที่ถูกต้องนั้น ต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลและการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายตามรัฐธรรมนูญ และตามระบบรัฐสภา ไม่ใช่ใช้เงินไปบิดเบือน ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่ว่าใครทำก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มี ส.ส. ฟากรัฐบาลไปกินข้าวกับพรรคฝ่ายค้าน และดูเหมือนมีท่าทีจะไปเข้าร่วมกับฝ่ายค้านด้วยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนตอบเรื่องนี้แทนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องตัวบุคคล และไม่ขอจะไปวิจารณ์ แต่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านทุกฝ่ายก็มีหน้าที่ และจะต้องตระหนักในหน้าที่ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ก็ต้องสร้างผลงานของแต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงานให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับประเทศกับส่วนร่วม
ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินซึ่งเป็นกลไกที่เป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักและเข้าใจบทบาทเหล่านี้ และทั้งหมดต้องทำไปเพื่อประโยชน์ประชาชน และส่วนรวม
“ผมว่าไปด่วนสรุปก็คงยังไม่ได้ แต่เรื่องการปรากฎเป็นข่าวโน่นนี่ก็เป็นเรื่องปกติของวิถีประชาธิปไตย มันก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ การเป็นห่วงเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล ทุกประเทศก็มี ไม่ใช่มีเฉพาะประเทศเรา มันเป็นเรื่องธรรมดา ฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบ รัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องฝ่าการตรวจสอบไปให้ได้ด้วยผลงานและความซื่อสัตย์สุจริต”
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า สำหรับในพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี ส.ส.แตกแถวลักษณะนี้ เพราะมีข้อยุติจากที่ประชุม แต่เรื่องการแสดงความเห็นนั้นมีแน่ เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีวิถีประชาธิปไตยในพรรคเป็นตัวแบบที่เราใช้ระบอบประชาธิปไตยในการบริหารงานพรรค และการวินิจฉัย การตัดสินทุกอย่างในพรรค ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ และจะเดินหน้าแนวทางนี้ ทุกอย่างจึงยุติได้ด้วยมติพรรค
ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทุกครั้งจะต้องดูก่อนว่ามีประเด็นอะไร และการนำเสนอในสภาเป็นอย่างไร ยังไม่อยากด่วนพูดอะไรไปมาก เพราะการยื่นญัตติยังไม่มีเลย และไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไ