"เทพไท" เข้าใจ "จอนนี่ แอนโฟเน่" กลับใจขอโทษร่วม ม็อบ กปปส.
“เทพไท” ไล่ไทม์ไลน์ วิกฤติการเมือง ก่อกำเนิด กปปส. ย้ำเข้าใจ “จอนนี่ แอนโฟเน่” หลังกลับใจขอโทษปมร่วมม็อบ พร้อมยืนข้างฝ่ายต้านรัฐบาล ส่วนตนยันไม่ขอโทษ เชื่อมั่นเจตนารมณ์การเมือง
7 พ.ค.2565 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์วิกฤตทางการเมืองของบ้านเมืองเช่นกัน จะขอลำดับถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงวิกฤติการเมืองออกเป็น 4 ช่วงดังนี้
ช่วงที่ 1 มีการเสนอ พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ของรัฐบาลเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการอภิปรายคัดค้านกันอย่างกว้างขวาง จากส.ส.ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ แม้แต่สมาชิกฝ่ายรัฐบาลในขณะนั้นบางคน ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เพราะพ่อของเขาเสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงด้วย แต่รัฐบาลยังดึงดันที่จะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอยไปให้ได้ โดยการลงมติตอนตี4 ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นกฎหมายล้างผิดให้กับคนโกง หรือกฎหมายลักหลับ
ช่วงที่ 2 เมื่อการต่อสู้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไม่ประสบความสำเร็จ ก็มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่ง ได้ลาออกจากการเป็นส.ส.ไปเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา มีการชุมนุมต่อต้านกฎหมายล้างผิดให้คนโกง ในนามกลุ่ม กปปส.ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากจำนวนหลักแสนเป็นจำนวนหลักล้านคน และมีการชุมนุมกันอย่างยืดเยื้อยาวนาน เพื่อขับไล่รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ ที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่
ช่วงที่ 3 เป็นการทำรัฐประหารของคณะนายทหารกลุ่มหนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กระทำการยึดอำนาจจากรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองถึงทางตัน มีการเผชิญหน้าของกลุ่มมวลชนทั้งกลุ่ม กปปส.และกลุ่มนปช. จนมีการเชิญแกนนำของทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุมหาทางออกของบ้านเมือง ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต และมีการเสนอให้รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ ลาออกจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่ได้รับคำตอบการปฏิเสธโดยไม่มีการลาออกแต่อย่างใด จึงเป็นที่มาของการประกาศยึดอำนาจของ คสช.
ช่วงที่ 4 หลังจาก คสช. ได้จัดตั้ง รัฐบาลบริหารประเทศมาเป็นเวลา 4 ปี และมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ขึ้นมา เพื่อใช้ในการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยมีสารสำคัญคือ การแต่งตั้ง ส.ว.จำนวน 250 คน และมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ร่วมกับส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง
ผมเข้าใจความรู้สึกของหลายๆคน รวมทั้งคุณจอนนี่ แอนโฟเน่ ที่เคยเข้าร่วมกับกลุ่ม กปปส.และมีความคาดหวังว่า หลังจากการชุมนุมแล้ว จะมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ปฏิรูปการเมืองในทุกด้าน แต่เมื่อเกิดความล้มเหลวในทุกด้าน ทำให้เกิดความผิดหวังในกลุ่มมวลมหาประชาชน ที่อยากเห็นความเจริญก้าวหน้า ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จึงเป็นที่มาของการออกมาขอโทษสังคม และมีส่วนหนึ่งก็แปรเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ที่มาจากการสืบทอดอำนาจของ คสช.ในปัจจุบันเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ส่วนตัวผมจะไม่ขอโทษใดๆ ยังยืนยันว่าได้ตัดสินใจถูกต้อง ในสถานการณ์การเมืองในขณะนั้น แม้ว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามความคาดหวังไว้ ก็รู้สึกเสียดาย แต่จะไม่จำเป็นต้องขอโทษและขอให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกคน จงภูมิใจและเชื่อมั่นในเจตนารมณ์ที่ได้แสดงออกทางการเมืองในวันนั้น