"เอ้ สุชัชวีร์" หาเสียงเขตวัฒนา มั่นใจคนหนุน ผู้สมัคร ส.ก.
"เอ้ สุชัชวีร์" ลุยหาเสียงเขตวัฒนา มั่นใจคนหนุนเหตุผู้สมัคร ส.ก. เกาะติดพื้นที่ หวังแก้น้ำท่วม รถติด พร้อมชูนโยบายพระเอก Bangkok Job Center พร้อมให้ติดตามเปิดตัว “ทีมสุชัชวีร์”
7 พ.ค.2565 ที่ตลาดพระโขนง นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่พร้อมกับ นายประสิทธิ์ รักสลาม ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 5 เขตวัฒนา และนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง กรรมการบริหา(กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันเดินหาเสียงกับพ่อค้า แม้ค้า และพี่น้องประชาชนที่ตลาดพระโขนง
โดยนาย สุชัชวีร์ กล่าวถึงแนวทางการปัญหาน้ำท่วม ขยะ และรถติด ในเขตวัฒนาว่า เขตนี้ครอบคลุมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ เรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจทั้งที่อยู่ใกล้ทางออกตรงพระโขนงซึ่งเป็นพื้นที่ปั๊มน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่กลับประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะมีปั๊มอยู่น้อยมาก และระบบประตูน้ำสำหรับระบายน้ำออกก็ไม่เป็นอัตโนมัติ
ตนตั้งใจอยากมาทำให้ เพื่อให้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากตั้งแต่พระโขนงจนถึงวัฒนาสามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้บริเวณนี้มีปัญหารถติดก็ตั้งใจจะสังคายนาทางเท้า ถนนให้มีคุณภาพ รวมทั้งสัญญาณไฟ และเกาะกลางถนนด้วย ซึ่งในบางพื้นที่กีดขวางทางจราจร พื้นที่แถวนี้ถือว่าเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก เพราะคนใช้ตลาดจำนวนมาก
นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงปัญหาคนไร้บ้านในพื้นที่ กทม.ว่า ปัญหาดังกล่าวมี 3 กรณีคือ
1.เขามีบ้านแต่ไม่อยากกลับบ้าน กทม. ควรพูดคุยกับครอบครัว ซึ่งกทม. มีหน่วยงานเพื่อทำหน้าที่ประสานให้เขาได้กลับบ้านได้
2.คนตกงานไม่มีบ้าน กทม. ต้องจัดหาที่พักพิงชั่วคราวให้อยู่ได้ และฝึกอาชีพพร้อมหาอาชีพให้ด้วย ซึ่งตนมีนโยบาย Bangkok Job Center ที่ถือว่าเป็นนโยบายพระเอก ที่จะมาดูแลให้นายจ้างกับคนหางานได้มีโอกาสเจอกัน ทำหน้าที่แมทชิ่งกัน
3.คนไร้บ้านที่มีปัญหาทางจิตเวช กทม. ต้องดูแลเยียวยารักษา
ตนก็เห็นความสำคัญเรื่องปัญหาความเครียดใน กทม. จึงมีนโยบาย “หมอมี สาธารณสุขดี ใกล้บ้าน” ซึ่งจะจัดให้มีจิตแพทย์ประจำอยู่ที่ศูนย์สาธารณสุขเพื่อให้คำปรึกษากับพี่น้องประชาชนด้วย
สำหรับนโยบายด้านขนส่งสาธารณะ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า วันนี้รถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างอยู่หลายแห่ง แต่ด้วยระบบผังเมืองที่เป็นตรอก ซอกซอย แบบกรุงเทพฯ จึงจำเป็นต้องเพิ่มอย่างมีคุณภาพคือ การมีรถเมล์ขนาดเล็กที่เข้าถึงโรงเรียน ชุมชน หรือสถานที่สำคัญต่างๆ และต้องเปลี่ยนเป็นระบบรถเมล์ไฟฟ้า เพราะตอนนี้น้ำมันแพงมาก แต่พลังงานไฟฟ้ายังมีราคาถูกอยู่ กม.ละ 3-4 บาทเท่านั้น ทำให้เก็บค่าโดยสารได้ในราคาถูกไม่เกิน 10- 12 บาท สำหรับเรื่องจุดเชื่อมต่อนั้น กทม. มีความได้เปรียบเพราะเป็นเจ้าของฟุตบาท และป้ายรถเมล์ การทำฟุตบาทให้เรียบเพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเดินได้สะดวก มีป้ายรถเมล์เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์ไฟฟ้า ก็จะสามารถทำให้การเดินทางได้อย่างสะดวกมากขึ้น แต่สิ่งที่ตนอยากให้ กทม. ต้องมีคือทางจักรยานลอยฟ้า เพราะเมืองอื่นในต่างประเทศทำกันหมดแล้ว และไม่ต้องเสียงบประมาณเพิ่มเติมอะไรมากด้วย
“ มีความมั่นใจว่าผมจะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนในเขตวัฒนา เพราะ นายประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ก. อยู่ในพื้นที่นี้มาตลอดตั้งแต่เป็น ส.ข. และเป็นคนที่ติดตามดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอทำให้รู้ปัญหาอย่างแท้จริง ดังนั้นหากตนได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็อยากให้มาเป็นที่ปรึกษาให้ผู้ว่าฯ กทม. ด้วย เพราะผู้ว่าฯ 1 คนทำงานไม่ได้ ต้องมาพร้อมกับ ส.ก.ที่เป็นคนในพื้นที่ รู้ปัญหาจริง ประชาชนเข้าถึงได้”นายสุชัชวีร์ กล่าว
ส่วนการเปิดตัวทีมงานผู้ว่าฯ กทม. ในช่วงโค้งสุดท้ายว่าจะเป็นเมื่อใดนั้น นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า อยากให้ติดตามดูต่อไป เพราะเคยย้ำไปแล้วว่า ผู้ว่าฯ ต้องมาพร้อมกับ ส.ก. 50 เขต 50 คน ซึ่งเป็น “ทีมสุชัชวีร์” อยู่แล้ว และเมื่อวันปราศรัยครั้งแรกก็ได้เชิญนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. มาเป็นที่ปรึกษาไปแล้ว ส่วนการเปิดตัวทีมงานเพิ่มเติมก็ขอให้ติดตามต่อไป