"ไพบูลย์-พิเชษฐ" สวนคนละหมัด ปมสอบทุจริต-ขับออกจาก "พปชร."

"ไพบูลย์-พิเชษฐ" สวนคนละหมัด ปมสอบทุจริต-ขับออกจาก "พปชร."

"พิเชษฐ" ยอมรับคุย "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" วงกินข้าวแกนนำเพื่อไทย แค่ทักทายกัน ถามว่าสบายดี ด้าน "ไพบูลย์" ชี้ปมเรียกสอบ ไม่ตั้งธงขับ แต่มีพฤติกรรมสุงสิง-วางแผนกับฝ่ายค้าน เตือน "เพื่อไทย" อันตราย เปิดคนนอกพรรคก้าวก่าย

           นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์โดยเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐยกเลิกการตรวจสอบตน กรณีที่เคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์ ซึ่งอ้างว่า ขัดต่อข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ เพราะมองว่าไม่มีพรรคการเมืองใดในระบอบประชาธิปไตยที่สอบสวนสมาชิกพรรคที่เคลื่อนไหวปกป้องผลประโยชน์ประเทศ การทุจริต ทั้งนี้กรณีดังกล่าวอาจทำให้พรคพลังประชารัฐ และพ ล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้รับผลกระทบ และหากไม่ยกเลิกสอบตนจะไปทำเนียบรัฐบาล

 

           นายพิเชษฐ กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่รีบตรวจสอบตนโดยไม่รอคณะกรรมการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นาายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมตรวจสอบกรณีโครงการประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี เพราะมีการตั้งธงไว้แล้ว ส่วนที่ตนประกาศไม่ไปเหยียบที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ เพราะตึกที่ทำการนั้นเป็นของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าของและเป็นนายทุน ดังนั้นอาจมีความเกรงใจ

           ทั้งนี้ นายพิเชษฐ ยังกล่าวยอมรับว่าได้สนทนาผ่านโทรศัพท์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ระหว่างรับประทานอาหารกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารตามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ด้วย โดยนายยุทธพงศ์เป็นคนต่อสายถึงอดีตนายกฯ ทั้ง2 คนเพื่อให้ทักทายกัน สอบถามว่าสบายดีหรือไม่ และตนได้กล่าวขอบคุณน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เคยตั้งให้ตนเป็นผู้แทนการค้า

 

           “ผมไม่ต้องการให้มารับรู้ หรือเกี่ยวข้องเพราะอาจมองว่าครอบงำ  ซึ่งวันนั้นนั่งกินข้าวหลายคน รวมถึงเลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้ ซึ่ง อดีตนายกฯ นั่งทานข้าวที่ประเทศดูไบ ซึ่งผมมองว่าคนที่เป็นอดีตผู้บังคับบัญชาคุยกันได้ ไม่ใช่ศัตรูอะไรกัน  และไม่ได้ทำความเสียหายกับผม” นายพิเชษฐ กล่าว

 


 

           ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ในประเด็นเดียวกันว่า เหตุผลที่ตรวจสอบนายพิเชษฐ ไม่เกี่ยวกับกรณีที่นายพิเชษฐตรวจสอบประเด็นโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี แต่เป็นพฤติกรรมของนายพิเชษฐ ที่สุงสิง หรือวางแผนร่วมกับพรรคเพื่อไทย พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพูดคุยกับนายทักษิณ ที่เป็นบุคคลมีคดี และมีปัญหา และไม่ใช่พฤติกรรมที่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐพึงมีหน้าที่ กระทำ และรับผิดชอบ ดังนั้นจึงเป็นพฤติกรรมที่ส่อว่าจะฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค และจริยธรรมบางข้่อของพรรคพลัปงระชารัฐ

 

 

           “ข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ มีข้อห้าม และข้อยกเว้นบางอย่างสำหรับบุคคลที่มีหน้าที่ประสานพูดคุยกับฝ่ายค้าน เช่น ประธานวิปรัฐบาล เพื่อประสานส.ส. แต่นายพิเชษฐ เป็นสมาชิกพรรคธรรมดา ไม่ได้รับมอบหมาย ดังนั้นจึงไม่มีหน้าที่ที่ไปทำเรื่องที่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย การไปแบบนั้น อาจทำให้พรรคเพื่อไทยมีปัญหาได้ว่าบุคคลภายนอกก้าวก่ายแทรกแซง” นายไพบูลย์ กล่าว

 

           นายไพบูลย์ กล่าวตอบคำถามถึงกรณีว่ามีธงจะขับนายพิเชษฐออกจากรพรค ว่า ไม่ถึงขนาดที่ต้องให้กรรมการบริหาร หรือสมาชิกพรรคมาลงแรงเพื่อขับนายพิเชษฐ ออก และไม่จำเป็น แต่อาจดำเนินการเหมือนที่เคยทำกับ 7ส.ส.ของพรรค และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ที่งดให้ร่วมกิจกรรมของพรรคในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือไม่เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ  ไม่ให้ร่วมประชุมพรรค หรือเข้าห้องทำงานของพรรคพลังประชารัฐที่รัฐสภา เป็นต้น.