"ส.ว.เพื่อนประยุทธ์" มอง2ช่วงวิกฤติการเมือง ชี้ปูดนายกฯคนนอกหวัง"2ป."แตก
"พล.อ.อกนิษฐ์" ส.ว.เพื่อนประยุทธ์ แนะจับตา "8ปีสถานะนายกฯ-ส.ส.ย้ายพรรค" เชื่อ 2ช่วงวิกฤติการเมือง ชี้ปูดนายกฯคนนอกหวังผล "2ป." หวาดระแวง
พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กล่าวถึงกมธ.มีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องวิธีการคำนวณ ว่า ไม่ว่าผลจะออกมาเป็น 100หาร หรือ500หาร อีกฝ่ายคงมีการสงวนคำแปรญัตติไปพูดในวาระสอง
และถ้าในที่สุดรัฐสภาลงมติอย่างไร อีกฝ่ายก็คงส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความ ถ้าระหว่างนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแล้วกฎหมายลูกยังไม่ผ่าน ก็เกิดความยุ่งยาก
"กฎหมายประกอบ รธน. ทั้งสองฉบับ เรามองว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมือง เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในการเข้าร่วมในกมธ. จุดยืนของเราคือแก้ไขแล้วเป็นประโยชน์กับประชาชน และไม่ขัด รธน.หรือกม.ใดๆ เมื่อมองว่าเรื่องการคำนวน ส.ส.มีปัญหา ก็ต้องมาหารือกันต่อไปว่าจะทำอย่างไร เพราะดูแล้ววันข้างหน้าอาจจะเกิดวิกฤตการเมืองใน 2 ช่วง คือ 24 ส.ค. ซึ่งเป็นที่ถกเถียงเรื่องนายกฯดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี และวันที่ 28 ก.ย.ที่เป็นช่วงส.ส.สังกัดพรรคฯ 90 วันก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งตอนนั้นคาดว่าจะมี ส.ส.ลาออกจากพรรคเก่ากันเยอะมาก เพื่อไปสังกัดพรรคใหม่" พล.อ.อกนิษฐ์ ระบุ
เมื่อถามถึงข้อเสนอเรื่องนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีรายชื่อ พล.อกนิษฐ์ กล่าวว่า การจะใช้รัฐธรรมนูญ ม.272 วรรคสองได้ ต้องไปดู ม.272 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพรวมของกระบวนการในการเลือกนายกฯ เมื่อนายกฯ ลาออก รัฐสภาฯ ต้องสรรหานายกฯใหม่จากบัญชีรายชื่อก่อนตามที่ได้มีการหาเสียงกันไว้ ถ้ารายชื่อไม่ผ่านจึงจะสรรหานายกฯ คนนอกได้
“การพูดรวบรัดหรือพูดไม่หมดอาจทำให้สังคมสับสนได้ และในความเป็นจริงคนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชี ปฏิเสธเลย หรือไม่สู้ เขาจะไปตอบคนที่เลือกเขาเข้ามาได้อย่างไร เพราะเหมือนไม่ให้เกียรติประชาชน
จึงต้องไปถามว่าคนที่ปลุกกระแสนายกฯ คนนอกมีวัตถุประสงค์อะไร และใครเป็นคนโยนหินถามทาง หรือต้องการให้เกิดความหวาดระแวงระหว่าง นายกฯ กับ บิ๊กป้อมหรือไม่ ”พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “บิ๊กเจี๊ยบ” หรือ พล.อ.อกนิษฐ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น12 (ตท.12)เพื่อนร่วมรุ่นพล.อ.ประยุทธ์ อดีตเป็นมือทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการแก้ปัญหา จ.ชายแดนภาคใต้ เพราะเติบโตมาจากหน่วยทหาร จชต. ตั้งแต่เข้ารับราชการที่ ร.5 พัน.3 ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี หัวหน้าฝ่ายข่าวและยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจที่ 53 จ.ยะลา และตำแหน่งประสานงานกับมาเลเซียหลายตำแหน่ง แม้ว่าบางช่วงเวลาจะออกมาโตนอกพื้นที่บ้าง แต่ก็อยู่ในกองทัพภาคที่ 4 เช่น ผบ.ร.15 พัน.3 นครศรีธรรมราช , ผอ.กองข่าว ทภ.4 เป็นต้น