"นายกฯ" ถก "รมว.กลาโหม สหรัฐฯ" หาทางเพิ่มขีดความสามารถ "กองทัพ-กำลังพล"
"ประยุทธ์" หารือ "รมว.กลาโหม สหรัฐฯ" หาแนวทางเสริมความร่วมมือทวิภาคี เพิ่มขีดความสามารถกองทัพ กำลังพล การฝึกร่วม ต่อต้านประมงผิดกฎหมาย-ค้ามนุษย์ ขอบคุณการดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในอาเซียน บนความเชื่อใจ
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เวลา 16.00 น. ตามเวลา สหรัฐฯ ที่กระทรวงกลาโหม กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้พบหารือกับ นายลอยด์ เจมส์ ออสติน (Lloyd J. Austin) รมว.กลาโหม สหรัฐอเมริกา ในโอกาสการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ของนายกรัฐมนตรี
โดย นายกฯ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ และยินดีที่ได้มาเยือนกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หลังจากเคยมีโอกาสได้หารือผ่านระบบโทรศัพท์ทางไกลเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2564 โดยได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่ดำเนินมายาวนานกว่า 189 ปี และขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สนับสนุนความช่วยเหลือแก่ไทยในช่วงวิกฤติโควิด – 19 ซึ่งถือได้ว่าโรคระบาดถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่
ขณะที่ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทของนายกฯ ในการนำพาประเทศไทย ต่อสู้กับความท้าทายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด - 19 ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงทั่วโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพและกำลังพล การฝึก ศึกษาทางทหาร การฝึกร่วมผสม ความร่วมมือด้านไซเบอร์และอวกาศ และความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตลอดจนได้หารือถึงการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายและการปราบปรามการค้ามนุษย์
ในส่วนของความร่วมมือในระดับภูมิภาค ไทยยินดีที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มปฏิสัมพันธ์และการดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในภูมิภาค บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ การเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้ง ยินดีที่สหรัฐฯ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน(ASEAN Centrality) ซึ่งสอดคล้องกับเอกสารมุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด - แปซิฟิก(ASEAN Outlook on the Indo - Pacific: AOIP) ที่มุ่งเน้นความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยฝ่ายสหรัฐฯ ได้ย้ำความพร้อมดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในภูมิภาคอาเซียนต่อไปและทั้งสองฝ่ายหวังจะได้สานต่อความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเสร็จสิ้นการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แล้ว นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ เพื่อร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำอาเซียน