แจ้ง 3 ข้อหา ส.ส.ก้าวไกลฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วมม็อบดัน “สมรสเท่าเทียม”
“ณธีภัสร์” ส.ส.ก้าวไกล รายงานตัว สน.ลุมพินี ถูกแจ้ง 3 ข้อหา ฝ่าฝืน “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” ปมร่วมม็อบดัน “สมรสเท่าเทียม” ลั่นเป็นการลิดรอนสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ยันร่วมสู้กับผู้ต้องหาอีก 19 คน ชวนจับตาสภาฯโหวตร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ พรรคก้าวไกล เดินทางไปพบตำรวจ สน.ลุมพินี ตามหมายเรียก จากข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เพื่อเรียกร้องการสมรสเท่าเทียม หรือ #ม็อบ28พฤศจิกา โดยมี ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางไปร่วมให้กำลังใจ ได้แก่ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ
น.ส.ณธีภัสร์ กล่าวว่า รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในการริดรอนสิทธิการแสดงออกหรือสิทธิการชุมนุมของประชาชนซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว และปัจจุบันยังคงใช้อยู่ มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯฉบับนี้ เป็นจำนวนมากทั้งที่ควรยกเลิกไปได้แล้ว
“วันนี้มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและแสดงเจตจำนงว่าไม่หลบหนี ยืนยันว่าจะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมร่วมไปกับพี่น้องประชาชนอีก 19 คน ที่โดนคดีเดียวกันจากการไปร่วม ม็อบสมรสเท่าเทียม คดีนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะพวกเราไปเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศให้กับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศมีสิทธิสร้างครอบครัวและได้สิทธิสมรสอย่างที่ควรได้ ซึ่งบางคนโดนหมายไปแล้วหลายคดี แต่พวกเขายังยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ลดละ” น.ส.ณธีภัสร์ กล่าว
น.ส.ณธีภัสร์ กล่าวอีกว่า เมื่อประชาชนต่อสู้และเพื่อให้การต่อสู้ของพวกเขาไม่สูญเปล่า จึงหวังว่า ในวันที่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม กลับเข้าสู่สภาอีกครั้ง ส.ส.ที่พี่น้องประชาชนไว้วางใจให้เป็นตัวแทนปากเสียงของพวกเขาและทุกท่านที่เคยอภิปรายสนับสนุน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในครั้งก่อน จะไม่ผิดสัญญากับผู้มีความหลากหลายทางเพศ กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะต้องไม่ถูกปัดตก กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะต้องไม่ถูกบิดเบือนให้เป็นกฎหมายฉบับอื่นที่ริดรอนสิทธิความเสมอภาคและความเป็นมนุษย์ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันติดตามการลงมติต่อร่างกฎหมายนี้ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาในสมัยประชุมที่กำลังจะเปิดปลายเดือนนี้ด้วย
ภายหลังหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ สน.ลุมพินี ได้มีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหาต่อ น.ส.ณธีภัสร์ ได้แก่ ร่วมกันจัดกิจกรรมของบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ม. 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ กทม.โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับความมั่นคง ฉบับที่ 14 และร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ เมื่อตำรวจสรุปสำนวนแล้วเสร็จ จะส่งต่อไปยังอัยการ ส่วนจะสั่งฟ้องหรือไม่ จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ได้ผ่านการอภิปรายวาระรับหลักการในสมัยประชุมที่ผ่านมา แต่ก่อนการลงมติรับหรือไม่รับหลักการในวาระที่ 1 คณะรัฐมนตรีได้ส่งตัวแทนมาขอรับร่างกฎหมายจากสภาไปพิจารณาก่อนและจะส่งกลับมาลงมติอีกครั้งภายใน 60 วัน หรือสมัยประชุมที่กำลังจะเปิดนี้