"สกลธี" ไม่หวั่นไอโอร่วมม็อบ "กปปส." โจมตีโค้งสุดท้ายเลือกตั้งผู้ว่ากทม.
"สกลธี" ควง เด็ก พปชร. ลุยตลาดเช้าอ้อนขอคะแนนชาวสวนหลวง ยัน ลงอิสระ รับ กปปส. ออกโรงหนุนทำคะแนนเพิ่ม ยินดี ถูกตรวจสอบ ไม่กังวล โค้งสุดท้ายหากถูก ไอโอ เล่นงาน เชื่อ ประชาชนมีวิจารณญาณ อุบ ไฮไลท์ปราศรัยใหญ่ 20 พ.ค.นี้
16 พ.ค.2565 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ในนามอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงเขตสวนหลวงร่วมกับผู้สมัคร ส.ก. เขตสวนหลวง พรรคพลังประชารัฐ นางโสภา อมราศรัยศรี โดยเริ่มที่วัดมหาบุศย์ กราบไหว้ศาลย่านาคพระโขนง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเดินทางไปยังตลาดเอี่ยมสมบัติ เพื่อพบปะประชาชนเชิญชวนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 ซึ่งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
โดยนายสกลธี ได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ในช่วงเวลาที่เหลือว่าจะเดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่และจะปราศรัยใหญ่ปิดการหาเสียงในวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่วงเวียนใหญ่ตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งในวันนี้ได้ลงพื้นที่เขตสวนหลวงและสำรวจที่คลองประเวศบุรีรมย์ที่เชื่อมโยงกับคลองแสนแสบ หนึ่งในแผนนโนบายทำเรือโดยสารของตนที่มีวัดและมัสยิดต่างๆในด้านนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกทั้งการเดินทางทางเรือจะช่วยลดการจราจรบนถนนอ่อนนุชได้เพื่อให้ตรงกับนโยบายล้อรางเรือ
ส่วนในวันนี้ที่มีผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมเดินหาเสียงด้วยจะเป็นเปิดตัวอย่างเป็นทางการหรือไม่ นายสกลธี ยืนยันลงในนามอิสระไม่สังกัดพรรคแต่ก็มีแรงสนับสนุนจากคนคุ้นเคยมาร่วม เช่นเดียวกับพรรคการเมืองที่ไม่ได้ส่งผู้ว่าก็ให้อิสระ ส.ก. ว่าจะสนับสนุนใคร และในวันปราศรัยใหญ่จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ก. ที่จะให้สนับสนุนตน
รวมทั้งมีผู้มาปราศรัยเพิ่มเติมเพื่อปิดเวทีอย่างสมบูรณ์แบบด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้ถือเป็นช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายอยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกใคร แต่หากเลือกผู้ว่าที่ชื่อสกลธี จะมีการเปลี่ยนแปลงของ กทม. อย่างแน่นอน ก่อนย้ำว่านโยบายแรกคือการลอกท่อเพื่อป้องกันน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน รวมถึงแก้ข้อบัญญัติของ กทม. ที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน
ส่วนกรณีโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบยังมีกลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม. จะมีวิธีโน้มน้าวคะแนนอย่างไรบ้าง นายสกลธี มองคนที่ยังไม่ตัดสินใจ เนื่องจากในครั้งนี้มีคนลงสมัครเยอะทำให้ตัดสินใจยาก ซึ่งในสัปดาห์นี้จะเป็นตัวตัดสิน ย้ำตนอายุยังน้อยที่พร้อมทำงานมีประสบการณ์อีกทั้งยังขอเป็นผู้ว่าฯ ที่หาเงินได้ใช้เงินเป็นไม่รอเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเดียวและไม่มีผู้ว่าคนไหนเคยทำ และตนก็ไม่เชื่อผลสำรวจ เพราะมีการพลิกโพลได้ตลอดชี้นำได้บางส่วนเท่านั้น และจากการเลือกตั้งสนามอื่นที่ผ่านมาก็ชี้ให้เห็นว่าโพลไม่ตรงและมีหลายครั้งที่เป็นโพลยุทธศาสตร์
นายสกลธี ยังยอมรับว่าการมีบุคคลที่มีชื่อเสียงออกมาให้การสนับสนุนตนเองนั้นจะเป็นการขยายฐานความนิยมและถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนให้กับตนเอง ส่วนที่ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และอดีตเลขาธิการ กปปส. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนนั้น นายสกลธี มองเป็นสองมุม มีทั้งคนสนับสนุน และไม่สนับสนุน ซึ่งนายสุเทพเป็นเหมือนอาจารย์ของตน ตั้งแต่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นหากไม่สนับสนุนคือเรื่องแปลก ส่วนจะทำให้มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น นายสกลธี ยอมรับอาจะมีบางส่วน และมองว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของคะแนนใครได้ อย่างน้อยเพียงเป็นการชี้นำว่าคนสนับสนุนเราคือใคร เชื่อว่าถึงเวลาคน กทม. ก็จะมีวิธีการเลือกคนของเขาเอง ซึ่งมักจะพลิกล็อกและเหนือความคาดหมายเสมอ ไม่สามารถเดาผลอะไรได้ ซึ่งตนเองไม่มีความกังวล เพราะอยู่กับการเมืองมากกว่า 16 ปี รู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้
สำหรับเรื่องเฟคนิวส์ เชื่อว่าประชาชนจะมีวิจารณญาณพิจารณาได้ ก่อนย้ำว่าตนทำอย่างเต็มที่แล้วจนถึงวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคมนี้ เวลา 18.00 น. ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะชอบในสิ่งที่ตนเสนอหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีคะแนนแฝงมากพอสมควร เพราะแต่ละบุคคลมีฐานคะแนนเสียงของตัวเอง เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าการโหวตแบบยุทธศาสตร์ถึงเวลาจะใช้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่มองว่าสุดท้ายการเลือกตั้งของคน กทม. นั้นจะเป็นการคิดไตร่ตรองมาแล้ว และผลที่ออกมาจะเป็นทางที่ดีต่อบ้านเมืองเสมอ
นายสกลธี ยังมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องดี อย่างน้อยจะทำให้คน กทม. เห็นว่าบางครั้ง ไม่ได้มีทางเลือกแค่ซ้ายกับขวา มีทางเลือกที่มากกว่านั้น เป็นสิ่งที่เร่งให้ผู้สมัครฯแต่ละคน ต้องแสดงผลงานและวิสัยทัศน์ ให้เต็มที่เพื่อให้ประชาชนเลือก ก่อนตอบว่ารู้สึกสนุก เนื่องจากว่างเว้นลงหาเสียงมาตั้งแต่ปี 2554 รู้สึกเหมือนย้อนวันวาน แต่เหนื่อยหน่อยเพราะเดิมลง ส.ส. เป็นลูกทีมแต่คราวนี้มาเป็นหัวหน้าทีม และนับจากวันนั้นเดินมาไกลพอสมควร
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่าที่ผ่านมามักโดนโจมตีเรื่องใดมากที่สุด นายสกลธี ระบุว่าเรื่องที่ตนเคยร่วมชุมนุมกับ กปปส. เป็นหลัก แต่ยืนยันยึดมั่นในอุดมการณ์ และสิ่งที่ทำในขณะนั้นร่วมกับคนหลายล้านคน เพราะฉะนั้นเรื่องอดีตพร้อมตรวจสอบได้ ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ส่วนกรณีที่พบมีการนำรูปไปเชียร์นายสกลธีนั้น ยอมรับว่าพึ่งเห็น ซึ่งขณะนี้มีปฏิบัติการไอโอเยอะพอสมควร เพราะมีบางคนเชียร์ถูกเบอร์ทุกฝ่าย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ บางทีอาจจะโดนแกล้ง
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงวลีที่ผู้สมัครฯบางคน กล่าวว่าผู้ว่าฯ กทม. มาคนเดียวไม่ได้ ต้องมี ส.ก.ร่วมด้วย นายสกลธี เห็นต่าง เพราะ ส.ก. มีหน้าที่ตรวจสอบ และถ้าหากมี ส.ก. มาจากพรรคเดียว ก็จะทำให้เป็นเรื่องยากในการตรวจสอบ และถึงแม้ว่าตนจะไม่มี ส.ก. แม้แต่คนเดียว แต่ก็มีทีมงานที่เป็นอิสระ มีความสามารถมากกว่า และตนก็ไม่อยากจะส่งคนที่ไม่เหมาะกับงานพึ่งแต่โควต้าพรรคเช่นกัน