"จุรินทร์" มั่นใจกระแสปชป.ขาขึ้น จ่อดึง"ดร.เอ้" ช่วยงานพรรค

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พอใจภาพรวม ผลการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครและ สก. เพราะได้คะแนนมาเป็นอับดับ2 และ สก.ได้ถึง9 คน มองว่าเป็นช่วงขาขึ้น ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะการเลือกตั้งซ่อม ทั้ง จังหวัด สงขลา ชุมพร และ ราชบุรี ก็ได้รับชัยชนะ 

ส่วนกรณี ที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้กรรมการบริหารพรรคชี้แจง เรื่องผลการเลือกตั้งนั้น ไม่ได้เป็นการตำหนิถึงความผิดพลาด แต่เป็นความปรารถณาดี ต่อพรรคประชาธิปัตย์ อยากให้พรรคได้คะแนนมากที่สุด ซึ่งการเลือกตั้ง กทม. ครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็บ ลบคำปรามาส ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะสูญพันธุ์ ใน กทม. แต่เห็นได้ชัดเจน ว่า คนกรุงเทพฯ ยังให้โอกาส และ คนกรุงเทพ ยังไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่การเลือกตั้งสนามใหญ่ในภาคใต้ มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะกลับมา ครองพื้นที่ได้อย่างแน่นอน ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปด้วยดี พรรคจะเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ควบคู่กับผลวานที่เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ รวมทั้ง นำเสนอนโยบายดูแลประชาชน ซึ่งมั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการตอบรับจากทุกภาคเป็นอย่างดี 

สำหรับ อนาคตทางการเมืองของ นายสุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เบื้องต้น คุยกันแล้ว จะให้มาช่วยงานพรรค ในด้านที่สนใจ ซึ่งนายสุชัชวีร์ ก็ตอบรับ ช่วยงาน แต่ยังไม่ลงรายละเอียด ว่าจะมาทำด้านไหน เพราะเพิ่งเลือกตั้งเสร็จ จะสนับสนุนให้สงสมัคร สส. หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนายสุชัชวีร์

ส่วนที่หลายคนมองว่าคะแนนการเลือกตั้ง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ได้น้อยกว่า คะแนนเลือกตั้ง สส. ครั้งที่ผ่านมานั้น นายจุรินทร์ ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งกทม. ไม่ใช่ส.ส. แต่มองว่าอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งสนามใหญ่ ก็ได้ แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แต่ หลายครั้งก็สะท้อนตรงกันข้ามกัน ขึ้นอยู่กับ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น แต่ขณะนี้ผู้สมัคร สส. กทม. ของพรรคได้เตรียมความพร้อมเอาไว้เกือบครบแล้ว

ด้านนายนิพนธ์​ บุญญามณี​  รมว.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​กล่าวว่า แม้คะแนนของนายสุชัชวีร์​ สุวรรณสวัสดิ์​ ผู้สมัครในนามพรรคได้คะแนนน้อยกว่าที่คาดไว้​ แต่การได้ ส.ก.​ 9 ที่นั่ง​ เป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ จากเดิมตั้งเป้าไว้ 10 คน การที่ได้ 9 ที่นั่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งเป้าไว้ เพราะได้คะแนนเป็นลำดับที่ 2 อยู่ 4-5 เขต ซึ่งคะแนนห่างกันไม่มาก ดังนั้นหากรวมคะแนนส.ก. ถือว่าเป็นที่น่าพอใจจากเดิมที่ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อหารเฉลี่ยคิดเป็นสัดส่วนจำนวนประชากร​ จะได้ผู้แทนเกือบ​ 6 ที่นั่ง​ โดยคิดจากฐานส.ส.​33 คน

ขณะเดียวกันต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ส่วนทางยุทธศาสตร์ผลคะแนนจะต้องนำไปวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง พร้อมย้ำว่า พอใจในสิ่งที่ประชาชนมอบให้​ 

เมื่อถามว่าส.ก.ของทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล​ เมื่อรวมกันกว่า​ 30 ที่นั่ง​ นายนิพนธ์​ย้ำคำเดิมว่า​ ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่ว่าจะได้กี่ที่นั่ง​ แต่หากดูสัดส่วนถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ที่นั่งเพิ่ม

ทั้งนี้นายนิพนธ์ยัง​ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้นายองอาจ​ คล้ามไพบูลย์​ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ ที่ดูแลพื้นที่กทม ได้สรุป ให้คณะกรรมการบริหารพรรคฟัง ถึงสถานการณ์และปัญหา​ เพื่อจะนำไปเป็นยุทธศาสตร์​ในการเลือกตั้งส.ส.ต่อไป​ ซึ่งการเลือกตั้งทั้งผู้ว่ากทมและส.ก.ถือเป็นการซ้อมสนามใหญ่ และทำให้รู้ถึงจุดอ่อนและจุดแข็ง

ส่วนที่ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์บางคนออก มาวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่แพ้ ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ผิดพลาด​ นายนิพนธ์มองว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าในฐานะ ที่ตนดำรงตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย ไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อประชาชนตัดสินใจเลือกก็ต้องเคารพ เพราะกทม.ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของท้องถิ่น​ ที่มีพลเอก​อนุพงษ์​ เผ่าจินดา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล