“ไทยสร้างไทย” ดีล “ก้าวไกล” สกัด“เพื่อไทย” ชิงเก้าอี้ ปธ.สภา กทม.
“ไทยสร้างไทย” ดีล “ก้าวไกล” ดันคนชิงเก้าอี้ประธานสภา กทม. หวังสู้ “เพื่อไทย” แต่คาดชนะยาก เหตุรวมเสียงแล้วยังเป็นข้างน้อย
จากกรณีมีกระแสข่าวว่า ส.ก.พรรคเพื่อไทย เริ่มเคลื่อนไหวหารือกับ ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อผลักดันส่งคนเป็นประธานสภา กทม. โดยหากรวมเสียงกันแล้วจะได้ราว 29 เสียง สกัด ส.ก.พรรคก้าวไกล และพรรคอื่น ๆ ไม่ให้ส่งคนชิงประธานสภา กทม.นั้น
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2565 แหล่งข่าวจากพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า เรื่องนี้พรรคก้าวไกลได้รับการประสานและผลักดันจากพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และกลุ่มการเมืองอื่น ๆ เพื่อให้ส่งคนชิงเก้าอี้ประธานสภา กทม. ไม่ใช่เราที่เป็นฝ่ายประกาศตัวว่าจะส่งคนไปชิงเก้าอี้ดังกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ปัจจุบันพรรคก้าวไกลยังไม่ได้มีการหารืออย่างเป็นกิจจะลักษณะว่าจะส่งใครชิงเก้าอี้ประธานสภา กทม. และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาจากพรรคเพื่อไทย ว่าจะมาหารือเรื่องนี้กับพรรคก้าวไกลหรือไม่
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบข้อมูลมาตอนนี้คือ ส.ก.พรรคเพื่อไทย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม เนื่องจากความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการส่งแคนดิเดตชิงเก้าอี้ประธานสภา กทม.ด้วย ดังนั้นคงต้องรอการติดต่อจากพรรคเพื่อไทยก่อนว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากเรื่องการส่งคนชิงเก้าอี้ประธานสภา กทม.แล้ว ยังมีหลายเรื่องที่ต้องหารือกัน เช่น การผลักดันวาระ หรือนโยบายต่าง ๆ ร่วมกันในสภา กทม.เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ ส.ก.จำนวน 20 เขต พรรคก้าวไกล 14 เขต พรรคประชาธิปัตย์ 9 เขต กลุ่มรักษ์กรุงเทพ 3 เขต พรรคไทยสร้างไทย 2 เขต พรรคพลังประชารัฐ 2 เขต
หากพรรคเพื่อไทย รวมเสียงกับพรรคประชาธิปัตย์ จะมีจำนวน ส.ก. 29 เสียง เกินครึ่งหนึ่งของสภา กทม. สามารถผลักดันบุคคลเพื่อเป็นประธานสภา กทม.ได้ โดยมีแคนดิเดต 3 คนคือ นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร หรือ “เฮียล้าน” ส.ก.เขตจอมทอง อดีตประธาน สภา กทม. นายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.หนองแขม น้องชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย อีกรายคือนายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.มีนบุรี น้องชายนายวิชาญ มีนชัยนันท์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ประธานภาค กทม. โดยอยู่ระหว่างการตกลงกันของพรรคเพื่อไทยว่าจะส่งใครใน 3 คนนี้เป็นประธานสภา กทม.
ขณะที่เสียงของพรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย เบื้องต้นรวมกันมี 16 เสียง ต่อให้รวมเสียงจากกลุ่มรักษ์กรุงเทพ (3 เสียง) และ พปชร. (2 เสียง) จะมีเพียง 21 เสียงเท่านั้น