“ผ่านงบฯ 66" ต่อเวลา"ประยุทธ์" ฝนตกทั่วฟ้า วัดบารมี”ประวิตร”
การจะใช้อารมณ์ตัดเส้นเลือดใหญ่ ที่คอยหล่อเลี้ยงทุกกลุ่มทุกฝ่าย หรือ เล่นการเมืองแบบแตกหัก จะคว่ำให้ได้ลูกเดียว คนสติดีคงไม่มีใครเขาทำกัน
พอจะอุ่นใจได้เปราะหนึ่ง สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน กว่า 3.1 ล้านล้านบาท ในวาระแรกของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
มีแนวโน้มว่าที่ประชุมจะโหวตให้ผ่าน หรือรับหลักการ แบบไม่ยากเย็น เมื่อแกนนำรัฐบาล ต่างให้ความมั่นใจว่าถึงอย่างไร กฎหมายการเงินสำคัญฉบับนี้ ก็ต้องผ่าน
โดยเฉพาะการการันตีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุววรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่พูดกลางวงคณะรัฐมนตรีอย่างหนักแน่นว่า ต้องผ่านอย่างแน่นอน สร้างความประหลาดใจให้กับบรรดารัฐมนตรีเป็นอย่างมาก เพราะร้อยวันพันปี "บิ๊กป้อม" แทบไม่ปริปากพูดอะไรในที่ประชุมมาก่อน
การยืนยันเช่นนี้ เพื่อทำให้พรรคร่วมรัฐบาล เห็นว่าบิ๊กป้อม ยังมีบารมีในทางการเมือง เป่ากระหม่อมลูกพรรคพลังประชารัฐ และส.ส พรรคเล็ก ให้อยู่ในร่องในรอยได้
รวมถึงท่าทีของตัวแปร อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา รักษาการเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ที่แม้จะอาฆาต พล.อ.ประยุทธ์ เพียงใด ก็ได้แต่กัดฟันรอ ไม่ผลีผลาม หรือทำอะไรบุ่มบ่าม คิดล้างแค้นแบบหน้ามืดตามัว ขน ส.ส.ในสังกัด จากหลากหลายพรรค คว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ
นั่นเท่ากับตัดช่องทางโอกาสของตัวเอง และของประชาชนในการจะได้อานิสงส์ จากการพัฒนาผ่านโครงการที่กระจายสู่ทุกพื้นที่ เปรียบเหมือนฝนที่ตกทั่วฟ้า ทุกคนทุกฝ่ายต่างสมประโยชน์
ทั้งที่หาก "ร.อ.ธรรมนัส" เลือกเล่นเกมโหด ล้มประยุทธ์ โดยอาศัยจังหวะนี้ สามารถทำได้ง่ายกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไหนๆ เนื่องจากการโหวตร่างพ.ร.บ.งบฯ ใช้เสียงข้างมากของจำนวน ส.ส.ในที่ประชุมเท่านั้น
ต่างจากศึกซักฟอก ที่นายกฯ หรือรัฐมนตรี ที่โดนล็อกเป้าลากขึ้นเขียง ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของส.ส. ทั้งหมดที่มีอยู่ของสภา ถึงจะไม่ตกเก้าอี้
ดังนั้น เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส เลือกผ่อนสั้นผ่อนยาว ยินดีสนับสนุนงบส่วนที่ทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและบ้านเมือง ไม่ฉวยโอกาสนี้ คว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯ ซึ่งจะเป็นการบีบให้นายกฯ ลาออกหรือ ยุบสภา
เกมนี้ของร.อ.ธรรมนัส ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าจะทำก็ทำได้ แต่ตัวเองและพวกพ้องเองจะได้ไม่คุ้มเสีย กรณีที่คว่ำกฎหมาย งบฯ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะหลุดจากตำแหน่ง
ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส เลยต้องทู่ซี้ยอมให้ร่างพ.ร.บ.งบฯ ผ่านไปก่อน แล้วค่อยคิดบัญชีกันทีหลัง
ส่วนพรรคฝ่ายค้าน ทั้งเพื่อไทย และก้าวไกล ก็ต้องเล่นบทจอมชำแหละถึงความล้มเหลวในการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลเป็นธรรมดา เพื่อให้สมกับการเป็นฝ่ายตรวจสอบ แม้จะมีบางอย่างที่เห็นด้วย แต่ก็พูดออกไปไม่ได้ เพราะสถานะค้ำคอ ก็คงเห็นภาพการงดออกเสียง หรือไม่รับหลักการไปตามระเบียบ
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ เรื่องงบประมาณ ถือเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนของฝ่ายบริหาร ที่มีช่องทางให้ฝ่ายการเมืองทั้งหมดเข้ามาเกาะเกี่ยว ต่อรอง ใช้ประโยชน์เพื่อสร้างคะแนนนิยมต่างๆ
การจะใช้อารมณ์ตัดเส้นเลือดใหญ่ ที่คอยหล่อเลี้ยงทุกกลุ่มทุกฝ่าย หรือ เล่นการเมืองแบบแตกหัก จะคว่ำให้ได้ลูกเดียว คนสติดีคงไม่มีใครเขาทำกัน