“โรม” ขอ ปธ.สภาฯ อย่าเพิ่งเลื่อนลำดับ ส.ส.แทน “สำลี” เหตุไม่ชัดโควตาพรรคใคร

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ สิ้นสุดสมาชิกภาพ และในส่วนท้ายได้มีการระบุให้ผู้มีรายชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้นขึ้นมาเเทนตำแหน่งที่ว่าง แต่ศาลไม่ได้ระบุว่าเป็นพรรคการเมืองใด ว่า ข้อความคำวินิจฉัยที่ไม่ชัดเจนอาจจะเกิดปัญหาทางกฎหมาย เพราะเดิมนายสำลี เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกยุบ แล้วย้ายมาเป็นพรรคภูมิใจไทย หากเลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาแทน จะก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายและอาจมีผลทางการเมืองตามมา ถ้าเทียบเคียงกรณีของนายสำลี กับนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกตัดสิทธิ์ว่าขาดคุณสมบัติเช่นกัน จะพบว่าในคำวินิจฉัยของศาลฯ เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ ไม่สามารถเลื่อนลำดับขึ้นมาแทนที่ได้ เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ จึงเห็นได้ว่ากรณีนี้ก็คล้ายกัน แต่ศาลฯ เขียนคำวินิจฉัยที่ต่างกันออกไป

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ถ้ามีการเลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อขึ้นมาได้ ก็จะขัดแล้วธรรมนูญมาตรา 91 กำหนดให้หาจำนวน ส.ส.พึงมีก่อน ซึ่งเป็นระบบเลือกตั้งที่ใช้ตอนปี 62 แบบบัตรใบเดียว ดังนั้นเวลาผลออกมาก็ต้องดูว่าพรรคการเมืองนั้นจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าไร ซึ่งภูมิใจไทยได้บัญชีรายชื่อ 12 คน ดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้นถ้าเบื่อนขึ้นมาจำนวน ส.ส. ของภูมิใจไทย จะเพิ่มมาเกินกว่าที่ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เท่ากับคะแนนของอนาคตใหม่ถูกโอนย้ายไปภูมิใจไทยหรือไม่

“เราไม่อยากเห็นกระบวนการทางการเมืองที่ ส.ส.ใช้บทบาทของตัวเองสวนทางกับเจตนารมณ์ของประชาชน เพราะมี ส.ส. จำนวนไม่น้อยที่ย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่น โดยได้รับอามิสสินจ้าง ถ้าเกิดกระบวนการแบบนี้และเลื่อนบัญชีขึ้น เท่ากับส่งเสริมระบบงูเห่าใช่หรือไม่ เพราะอาจมีการซื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าพรรคของตนได้” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า คำวินิจฉัยที่ออกมา ตามมาตรา 105 อนุ 2 กำหนดว่าประธานสภาฯ ต้องประกาศเลื่อนลำดับภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งนั้นว่างลง ขอเรียกร้องต่อประธานสภาฯ ว่าอย่าเพิ่งเลื่อนลำดับ โดยให้ดูคำวินิจฉัยตัวเต็มก่อน ซึ่งตนกำลังพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่คำวินิจฉัยของศาลฯ อาจผิดพลาดคาดเคลื่อน ลืมนึกไปว่านายสำลี มีต้นทางมาจากพรรคอนาคตใหม่ซึ่งถูกยุบไปแล้ว โดยศาลฯ อาจไปเข้าใจว่านายสำลี เป็น ส.ส.ภูมิใจไทย มาตั้งแต่ต้น ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม ภายในพรรคก้าวไกลยังไม่ได้มีการหารือ เนื่องจากช่วงนี้อยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณปี 2566 และยังไม่ได้พูดคุยกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาด้วย ถึงได้มาแถลงเพื่อแสดงความกังวลผ่านสื่อมวลชนไว้ก่อน