สายคราฟต์เบียร์เฮ "ก้าวไกล" ดัน ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ผ่านด่านรับหลักการ
สภาฯ รวมพลัง ฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล รับหลักการร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ด้วยเสียง 178:137 เสียง "ส.ส.ก้าวไกล" เฮลั่นกลางสภาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ... หรือ ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กับคณะเป็นผู้เสนอ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอรับไปพิจารณาก่อนรับหลักการ ก่อนที่สภาฯ จะลงมติว่าจะรับหลักการหรือไม่
โดยนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าจากการพิจารณาของครม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมสรรพสามิต ศึกษาและพิจารรารายละเอียดแล้วไม่เห็นด้วยในหลักการของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว พร้อมให้ความเห็นว่าในปัญหาของผู้ประกอบการรายยอยที่ต้องการเข้าถึงการแข่งขันในตลาดผลิตสุรา สามารถปรับปรุงกฎกระทรวงที่เหมาะสมกับสอดคล้องกับเจตนารมณ์และสถานการณ์ปัจจุบัน โดยรัฐสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณของกาารผลิตสุราไว้ได้ ทั้งนี้หน่วยงานด้านสุขภาพ เช่น กรมควบคุมโรค แสดงความกังวลต่อผลกระทบกับชีวิตของผู้บริโภค หากพบการผลิตที่ไม่ถูกวิธี มีสารพิษปนเปื้อน เนื่องจากสุราต้องมีการควบคุมการผลิตที่เข้มงวด
อย่างไรก็ดีนายเท่าพิภพ อภิปรายโต้แย้งว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น อีกทั้งไม่ตอบคำถามที่ว่าทำไมต้องห้ามสิทธิของผู้ผลิตรายย่อยดำเนินการ ทั้งนี้มีส.ส.ที่อภิปรายสนับสนุนนายเท่าพิภพ และมองว่าการเปิดโอกาสให้ประชาชน ชาวบ้าน ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถผลิตสุราได้ จะเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตร ลดปัญหาสินค้าเกษตร เช่น ข้าวตกต่ำ และจะช่วยทำให้การผลิตสุรามีความหลากหลาย เหมือนกับต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ที่มีสาเกที่มีชื่อเสียงตามท้องถิ่น , เยอรมัน ที่มีเบียร์ที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยม อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ให้สิทธิประชาชนในการประกอบอาชีพ ดังนั้นการห้ามให้ประชาชนผลิตสุราจะขัดกับรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ในการอภิปรายดำเนินเกือบ 2 ชั่วโมง พบว่า ส.ส.ก้าวไกล เสนอญัตติให้ปิดการอภิปราย ทั้งที่มีส.ส.เข้าชื่ออภิปรายกว่า 8 คน เนื่องจากกังวลว่าจะไม่ได้ลงมติในวันนี้ (8 มิถุนายน) ทำให้ถูกโต้แย้งว่าเป็นการตัดสิทธิของส.ส. จนมีการเสนอญัตติสู้กันของพรรคฝ่ายรัฐบาล และมีวิวาทะกัน
โดยนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรครัฐบาล เสนอญัตติให้มีการอภิปรายต่อ พร้อมระบุว่าการเสนอญัตติที่ตัดสิทธิ ส.ส. ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการละเมิดสิทธิ ไหนบอกเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
ทำให้นายสุชาติ ต้องสั่งพักการประชุม 5 นาที เพื่อให้วิปทั้ง2 ฝ่ายหารือ แต่เมื่อกลับมาประชุมกันอีกครั้ง พรรคก้าวไกลเสนอถอนญัตติ แต่นายนิโรธยังไม่ยุติต่อความข้องใจการเสนอญัตติของส.ส.พรรคก้าวไกล และมองว่าเป็นการตัดสิทธิ ส.ส. ไม่ควรรับญัตติ ทำให้ถูกส.ส.ก้าวไกล ประท้วงให้คำนึงถึงเวลา ทำให้นายนิโรธ กล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้หมดเวลาแล้ว เพราะประธานชวน หลีกภัย ให้เลิกประชุมไม่เกิน 19.00 น.” ซึ่งนายสุชาติ วินิจฉัยว่า การเลิกประชุมเป็นเวลาประมาณการ หากจะเลิก 19.00 น. หรือ เกิน 19.00 น.อยู่ที่การประชุม และให้ดำเนินอภิปรายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีผู้อภิปรายครบถ้วนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังชี้แจงถึงการแก้ไขกฎกระทรวงที่จะสอดรับกับความต้องการของส.ส. ทั้งนี้จะใช้เวลา3 เดือนก่อนจะเสนอให้ครม. พิจารณา โดยจะปรับในประเด็นการขออนุญาตและเงินทุน จากนั้นที่ประชุมได้เรียกแสดงตน ก่อนลงมติ ผลปรากฎว่า มติที่ประชุมรับหลักการ ด้วยเสียง 178 เสียง ต่อ 137 เสียง และงดออก15เสียง
โดยส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมปรบมือพร้อมมีเสียงเฮ ด้วยความดีใจ จนนายสุชาติ ต้องเตือน ขณะที่ส.ส.ในห้องประชุมได้เข้าไปสวมกอดนายเท่าพิภพ เพื่อแสดงความยินดีด้วย จากนั้นได้ตั้งกรรมาธิการฯ พิจารณา.