"อนุทิน" ถก ตั้ง6อนุฯ วางมาตรฐานใช้ประโยชน์ "กัญชา" ยัน รัฐบาล ไม่หนุน มอมเมา
"อนุทิน" นำถก กก.บูรณาการนโยบายกัญชา ตั้ง 6 อนุฯ วางมาตรการกำกับการใช้ประโยชน์ วางมาตรฐานผลิตภัณฑ์ สื่อสาร ปชช. เข้าใจ ระบุ แนวทางนโยบายรัฐบาล ไม่หนุนในทางมอมเมา-สันทนาการ ยัน จะดำเนินการอย่างรัดกุม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ได้รับการแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 120/2565 เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลให้การใช้ประโยชน์ของกัญชาและกัญชงเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ปลดล็อคกัญชาและกัญชงจากยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 65 เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเกิดการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวเนื่อง
ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักในประเด็นความกังวลต่อกรณีที่อาจมีการใช้กัญชาและกัญชงในทางที่ไม่เหมาะสม และยืนยันในแนวนโยบายที่รัฐบาลไม่สนับสนุนการใช้ในทางมอมเมาหรือเพื่อสันทนาการ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมก็มีความห่วงใยและต้องการให้การบริหารจัดการสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาฯ คณะนี้ขึ้นมา เพื่อวางมาตรการกำกับการใช้ประโยชน์กำหนดมาตรฐานการผลิตในผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาตรการคุ้มครองบุคคลเพื่อไม่ให้เกิดการใช้ในทางไม่เหมาะสม ตลอดจนการสื่อสารให้ประชาชนมีความเข้าใจ โดยคณะกรรมการจะทำหน้าที่ไปจนกว่า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะมีผลบังคับ
สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... วานนี้(8 มิ.ย.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีการที่ได้มีการลงคะแนนรับหลักการร่างกฎหมายอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 373 เสียง แสดงให้เห็นว่าสภาเห็นด้วยกับแนวทางการส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาและกัญชงเพียงแต่ต้องมีมาตรการดูแลที่เหมาะสมป้องกันผลกระทบต่อสังคม ดังนั้น รัฐบาลจะดำเนินการทุกด้านอย่างรัดกุมเพื่อให้เกิดการใช้กัญชาและกัญชงในทางเป็นประโยชน์สูงสุดกับประเทศ
“นับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกัญชา กัญชงในประเทศไทย และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะได้ทำความเข้าใจและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ประชาชนจะสามารถปลูกเพื่อประโยชน์จากกัญชา กัญชง ส่วนผู้ที่ต้องการทำธุรกิจก็ทำได้ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์ เพิ่มโอกาสและเกิดความหลากหลายทางธุรกิจ ขณะเดียวกันก็มีการควบคุมการผลิตสารสกัดให้มีคุณภาพมาตรฐาน และมีมาตรการป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาฯ จะเข้ามาดูแลไปจนกว่า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะมีผลบังคับเป็นทางการ แต่เชื่อว่าระหว่างนี้จะไม่มีปัญหาเนื่องจาก 3 ปีที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการในด้านต่างๆ มาโดยต่อเนื่อง และสาธารณสุขก็มีกฎหมายข้อกำหนดต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้บังคับเพื่อไม่ให้มีการใช้กัญชากัญชงในทางที่ไม่เหมาะสมได้” นายอนุทิน กล่าว
ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาฯ ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 6 คณะ เพื่อสนับสนุนภารกิจของคณะกรรมการในด้านต่างๆ เพื่อให้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
1.คณะอนุกรรมการด้านการแพทย์และการบำบัดรักษา มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
2.คณะอนุกรรมการด้านการให้ความรู้แก่เยาวชนและประชาชนเพื่อป้องกันผลกระทบทางสังคมมีปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน
3.คณะอนุกรรมการด้านการผลิตทางเกษตรกรรม มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน
4.คณะอนุกรรมการด้านการป้องกันการลักลอบนำเข้า การผลิตที่ผิดกฎหมาย มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน
5.คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย มีเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธาน
และ 6.คณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธาน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการรายงานสถานการณ์กัญชา กัญชงในมิติต่าง พร้อมกับมีข้อเสนอ ข้อห่วงใยในประเด็นต่างๆ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงาน อย.ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการฯ รวบรวมทุกข้อเสนอแนะเพื่อมอบหมายต่ออนุกรรมการด้านต่างๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป และรองนายกรัฐมนตรีจะนำข้อเสนอแนะจากที่ประชุมไปเสนอต่อกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อให้เกิดการแปรญัตติที่รอบด้านให้กฎหมายที่กำลังจะออกมาสามารถดูแลการใช้กัญชา กัญชง อย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ นับแต่รัฐบาลได้เริ่มมีนโยบายผลักดันการใช้ประโยชน์จากกัญชา ด้านการแพทย์มีการกระจายยากัญชาไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ และมีการจ่ายยากัญชาไปแล้ว 1,437,443 หน่วย มีผู้ป่วยที่ได้รับยากัญชาไปแล้วมากกว่า 109,008 ราย มียากัญชาในบัญชียาหลักแห่งชาติทั้งสิ้น 8 ตำรับ ส่วนประโยชน์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้มีการให้อนุญาตผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา ที่มีการนำกัญชาและกัญชงไปเป็นส่วนประกอบทั้งหมด 1,181 รายการ