เส้นทาง "โกทร" บ้านใหญ่ลุ่มน้ำบางปะกง

ข่าวใหญ่สะท้านสะเทือนลุ่มน้ำบางปะกง เมื่อ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ, สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี

จากนี้ไป สองพ่อลูก "สุนทร-กนกวรรณ" ก็ต้องไปต่อสู้คดีในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ซึ่งการชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

คนปราจีนฯ เรียกสุนทร วิลาวัลย์ ว่า "โกทร" ซึ่งชื่อนี้ มีทั้งพระคุณและพระเดช นับตั้งแต่ปี 2523 ที่เขาได้รับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี และเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของ บุญส่ง สมใจ อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี รุ่นเก๋า

จ.ปราจีนบุรี คือต้นกำเนิดบูรพาพยัคฆ์ พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เติบโตที่ ร.21 รอ.(ชลบุรี) แต่มาสร้างฐานสร้างบารมีที่ ร.2 รอ. (ปราจีนบุรี) และ ร.12 รอ.(สระแก้ว)

เมืองปราจีนฯ จึงเต็มไปด้วยบ้านใหญ่สีเขียว แต่บ้านใหญ่นอกรั้วค่ายทหาร ในยุทธจักรลุ่มน้ำบางปะกง ก็มีอยู่ 2 บ้านคือ "โกทร" หรือ สุนทร วิลาวัลย์ มีฐานเสียงอยู่รอบนอกเขตเทศบาลเมืองปราจีนฯ และมีกองบัญชาการอยู่ที่โรงแรมบางปะกง "เล็กน้ำ" บุญเกื้อ พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี มีกองบัญชาการอยู่ที่โรงแรมโซเฟีย และมีฐานเสียงหลักอยู่ในเขตเทศบาลฯ

ปลายเดือน เม.ย.2561 ตระกูลวิลาวัลย์ จัดงาน 80 ปี สมาร์ท..เสมอ ฉลองวันเกิดให้ "โกทร" อย่างยิ่งใหญ่ กนกวรรณ วิลาวัลย์ ลูกสาวโกทร ได้เขียนหนังสือชื่อ "โกทร สุนทร วิลาวัลย์ ภูมิใจที่ได้รับใช้ท่าน" มอบให้ชาวปราจีนฯ หลังโกทร รับใช้ในฐานะ ส.ส.ปราจีนฯ 8 สมัย  

สมัยที่ปราจีนบุรี ยังไม่ได้แยก อ.สระแก้วออกเป็นจังหวัดใหม่ โกทรเป็น ส.ส.สมัยแรก ปี 2526 พรรคราษฎร ก่อนจะย้ายมาอยู่พรรคชาติไทย ปี 2529 ใต้ชายคาเดียวกันกับเสนาะ เทียนทอง โกทรก็คุมฝั่งต้นน้ำบางปะกง เสี่ยแหนม-เสนาะ คุมชายแดนบูรพาและได้ฉายา เจ้าพ่อวังน้ำเย็น 

เฉพาะฝั่งลุ่มน้ำปะกง โกทรมีคู่แข่งคนสำคัญชื่อ สมาน ภุมมะกาญจนะ ซึ่งมีอยู่สมัยหนึ่ง สมานไปดึงวัฒนา เมืองสุข มาลงสมัคร ส.ส.ปราจีนฯ แข่งกับโกทร 

ปี 2539 เสนาะชวนโกทร ไปอยู่พรรคความหวังใหม่ ตั้งเป้าดัน พล.อ.ชวลิต เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง โกทรจึงได้เป็น รมช.สาธารณสุข รัฐบาลชวลิต 

ปี 2544 โกทร ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย พร้อมเสนาะ และปี 2548 โกทรส่งลูกสาว "โอ๊ะ" กนกวรรณ วิลาวัลย์ ลงสมัคร ส.ส.ปราจีนฯ แทนตัวเอง

เมื่อสระแก้วแยกเป็นจังหวัดใหม่ เมืองปราจีนฯ ก็มี 3 เขต โซน อ.เมืองปราจีนฯ ,อ.ประจันตคาม และ อ.กบินทร์บุรี เป็นฐานเสียงโกทร ฝั่ง อ.บ้านสร้าง อ.ศรีมหาโพธิ ก็เป็นของตระกูลภุมมะกาญจนะ

ปี 2550 โกทรย้ายไปสังกัดพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย เจอใบแดง ต้องเว้นวรรค 5 ปี แต่มีเลือกตั้งซ่อม ก็ส่งหลานชาย-อำนาจ วิลาวัลย์ ลงสมัคร ส.ส.แทน รักษาเก้าอี้ไว้ได้ 

ปี 2554 เนวิน ชิดชอบ ชวนโกทรมาอยู่พรรคภูมิใจไทย และสร้างผลงานคว้า ส.ส.ปราจีนบุรี 2 ที่นั่งคือ อำนาจ วิลาวัลย์ หลานชายโกทร และ เพชรินทร์ เสียงเจริญ ตัวแทนบ้านใหญ่ อ.นาดี

สมัยต่อมา โกทรก็หวังที่จะยึด 3 ที่นั่ง เมืองปราจีนฯ เพราะบ้านใหญ่บุรีรัมย์บอกว่า ถ้าโกทรชนะยกจังหวัด เอาไปเลย 1 เก้าอี้รัฐมนตรี ในที่สุด เลือกตั้งปี 2562 โกทรเจรจา ชยุต ภุมมะกาญจนะ ลูกชายสมาน และอดีต ส.ส.ปราจีนฯ หลายสมัย มาร่วมทีมภูมิใจไทยสำเร็จ และดึง สฤษดิ์ บุตรเนียร อดีต ส.ว.ปราจีนบุรี ลงเขต 3 แทนเพชรินทร์ พร้อมกับวางตัวลูกสาว กนกวรรณ วิลาวัลย์ และเพชรินทร์ เสียงเจริญ อยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ผลเลือกตั้งที่สนามปราจีนบุรี ภูมิใจไทยชนะยกจังหวัด และโกทรได้โควตารัฐมนตรี โดยส่งเจ๊โอ๊ะ ลูกสาวไปนั่งเก้าอี้ รมช.ศึกษาธิการ

ปลายปี 2563 โกทร ตัดสินลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี แทนน้องสาว "ป้าอ้วน" บังอร วิลาวัลย์ ที่เป็นนายก อบจ.มาแล้ว 4 สมัย ผลการเลือกตั้ง โกทรโกยแต้มทะลุแสนคะแนน ชนะคู่แข่งขาดลอย 

เมื่อ 28 พ.ค.2565 อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยกทีมผู้บริหารพรรค และ ส.ส. ร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย ปราจีนบุรี เขต 3 ของสฤษดิ์ บุตรเนียร โดยวันนั้น เสี่ยหนูประกาศปราจีนบุรีสมัยหน้า ต้องแลนด์สไลด์อีกครั้ง

เมื่อเจอวิบากคดีรุกป่าเขาใหญ่ บ้านใหญ่วิลาวัลย์ ก็ต้องปรับทัพสู้ศึกสมัยหน้า เพราะคู่แข่งคนรุ่นใหม่ก็รอเวลาที่จะล้มโกทรในสนามเลือกตั้ง