คนไทยโดนปล้น "พรรคกล้า" แฉ ค่าการกลั่น เพิ่ม 10 เท่า ทำราคาน้ำมันพุ่ง
"พรรคกล้า" แฉ คนไทยโดนปล้นมากว่า 1 ปี หลังพบราคากลั่นน้ำมันสูงเกินจริง ถึง 10 เท่า จี้ “สุพัฒพงษ์” แก้ปัญหาด่วน รู้ข้อมูลดี เหตุเป็นลูกหม้อ "ปตท." ไม่ต้องเกรงใจเพื่อน แนะ 3 ประเด็นแก้ปัญหา
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วย นายอรรรวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคร่วมแถลงถึงวิกฤติพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า ราคาน้ำมันในประเทศไทย ต่ำกว่าในประเทศกลุ่มอาเซียน เพราะมีการอุ้มราคาพลังงานจากรัฐ แต่ก็ไปสร้างหนี้ให้กับกองทุนน้ำมัน ที่ตอนนี้กำลังจะแบกรับไม่ไหวแล้ว เพราะต้องนำเงินในกองทุนไปช่วยอุ้มทุกเดือน เดือนละ 20,000 ล้าน ยอดหนี้สะสมตอนนี้อยู่ที่ 80,000 ล้านบาท และจะทะลุ100,000 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนนี้
โดยปัญหาคือ กองทุนฯ ไม่ได้มีรัฐกำกับดูแล ต้องไปวิ่งกู้เงินเองจากสถาบันการเงิน แต่ตอนนี้มีความเสี่ยง จึงไม่สามารถกู้เพิ่มได้ และไม่มีรายได้ด้วย ปัญหาระยะยาว แม้ราคาน้ำมันโลกจะลดลง แต่กองทุนน้ำมันก็จะยังต้องเก็บภาษีจากน้ำมันต่อไป เพื่อนำรายได้มาชำระหนี้คืนสถาบันการเงินที่ไปกู้เงิน จึงกลายเป็นภาระในอนาคตของประชาชนต่อ
นายกรณ์ กล่าวว่า คนไทยโดนปล้นมากว่า 1 ปีแล้ว จากค่ากลั่นน้ำมัน เพราะจากข้อมูลราคากลั่นน้ำมันพบว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ 25.92 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันสำเร็จรูป34.48 บาทต่อลิตร แต่ค่ากลั่นอยู่ที่ 8.56 บาทต่อลิตร ทั้งที่ค่ากลั่นปกติ อยู่ที่ 0.87 บาทต่อลิตรเท่ากับค่ากลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ทั้งที่ต้นทุนไม่ได้เพิ่มเลย มันเป็นการปล้นประชาชน โดยที่รัฐบาลไม่มีคำอธิบายกับประชาชนเลย
"คำถามคือ โรงกลั่นนี้ของใคร ปตท. เป็นเจ้าของโรงกลั่นกว่า 70% ในประเทศ โดยที่รัฐไม่มีคำอธิบายให้ประชาชน กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ควบคุมราคาสินค้าทำไมไม่ไปดู ส่วนกระทรวงพลังงานก็มีอำนาจโดยตรง อยากฝากบอกรัฐมนตรีว่ารู้ดีเพราะเป็นลูกหม้อปตท. ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาเกรงใจเพื่อนๆ มันมีวิธีที่จะช่วยเหลือบ้านเมืองและประชาชนได้ทันที ต้องรีบตัดสินใจ ขณะที่กระทรวงการคลัง ก็มีส่วนเหมือนกันไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมายภาษีลาภลอย แต่ก็มีหุ้นในโรงกลั่น ทุกคนควรใช้พลังให้ถูกที่ ในการหาความเป็นธรรมให้กับสังคมไทย และข้อมูลนี้ถ้าพรรคกล้าหาได้ ก็เชื่อว่าคนที่อยู่ในอำนาจก็ต้องคิดได้เหมือนกัน แต่คำถามคือ ทำไมไม่ทำอะไร ปล่อยให้กองทุนน้ำมันติดหนี้จนจะเดี้ยง ไม่มีประสิทธิภาพ”
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังควรอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่ามันมีงานให้ทำ คนที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ มีอำนาจที่จะใช้และสามารถใช้ในการช่วยเหลือประชาชนได้ก็ต้องใช้ ตนไม่มีประเด็นว่าใครจะต้องอยู่หรือไม่ แต่คิดว่าใครที่อยู่ในตำแหน่งขอให้ทำทุกอย่างที่ทำได้ และควรทำเพื่อช่วยประชาชน
ทั้งนี้ พรรคกล้า ขอเสนอ 3 ประเด็นแก้ไขปัญหาราคาพลังงานเร่งด่วน ดังนี้
1. ควรมีการกำหนดเพดานการกลั่น โดยเฉพาะ ปตท. เพื่อเป็นเครื่องมือที่ป้องกันการค้ากำไรเกินควร เพราะราคาการกลั่นเป็นเรื่องที่สมมติขึ้นมา ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของต้นทุนการผลิต และสถานการณ์ราคาวิกฤติพลังงาน
2. ควรเก็บภาษีลาภลอย ( windfall tax ) เพราะราคาส่วนต่างจากราคาการกลั่นน้ำมันเป็นราคาลาภลอยให้กับบริษัท ทำให้เขาได้กำไรจากส่วนต่าง จึงควรเก็บภาษีลาภลอย เพื่อนำกำไรที่เกินมาช่วยเหลือประชาชน และนำมาช่วยในกองทุนน้ำมันต่อไป พร้อมแนะ ครม. ออกกฎหมายลาภลอย จะเร็วกว่าที่พรรคกล้าจะเสนอ
3. ควรจริงจังกับมาตรการการประหยัดการใช้พลังงาน