“ก้าวไกล” ล็อกเป้าถล่ม 10 รมต. จัดหนัก “3 ป.” ชี้อย่าบีบเวลายื่นซักฟอก
“ก้าวไกล” ล็อกเป้าแล้ว! เตรียมซักฟอก “รมต.” ยกแผง 10 ราย ลุยจัดหนัก “3 ป.” ชี้อย่าเล่นเกมบีบเวลายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หวั่นรัฐบาลลาออกก่อนกฎหมายลูกเสร็จ เกิดเดดล็อกการเมือง
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2565 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ว่าขณะนี้กระบวนการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งรายชื่อรัฐมนตรีและประเด็นได้เสร็จสิ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย (พท.) รับผิดชอบเป็นหลัก โดยในวันที่ 14-15 มิถุนายน จะเปิดให้ ส.ส.ร่วมเซ็นชื่อในญัตติ และจะยื่นญัตติต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามกำหนดที่นัดหมายไว้คือวันที่ 15 มิถุนายน
เมื่อถามว่า จะมีพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคขอเปลี่ยนชื่อรัฐมนตรีหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในภาพใหญ่พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่า รายชื่อรัฐมนตรีทั้ง 10 คน คือรัฐมนตรีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปราย แต่อาจมีความแตกต่างในความลึกของข้อมูลรัฐมนตรีแต่ละคน ที่ยังมีรายละเอียดและหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อย ๆ
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะอภิปรายรัฐมนตรีกี่คน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเตรียมจะอภิปรายรัฐมนตรีทุกคน เพราะการอภิปรายรัฐมนตรีคนหนึ่งอาจจะมีความเชื่อมโยงกับรัฐมนตรีคนอื่นด้วย เช่น รองนายกฯบางคนที่ได้โควตาพรรคการเมือง ทำหน้าที่กำกับดูแลหลายกระทรวง อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลจะเน้นน้ำหนักไปที่ 3 ป. และไต่ระดับลงมาถึงนั่งร้านต่างๆ เพราะมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด หรือทุจริตอย่างไร
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงข้อกังวลเรื่องกำหนดเวลาการอภิปรายว่า เนื่องจากรัฐบาลเป็นฝ่ายกำหนดวันเวลาที่จะอภิปราย ซึ่งขณะนี้ระยะเวลาต่างๆ พันกัน ทั้งการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … วาระ 1 ที่ยังไม่รู้ว่าเสร็จสิ้นเมื่อใด รวมถึงร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเข้าสภาเมื่อใด เราจึงค่อนข้างเป็นห่วงว่าถ้าจังหวะเวลาที่กฎหมายเคลื่อนออกไปจะมีผลต่อการอภิปราย หากเกิดกรณีที่รัฐบาลลาออก หรือถูกโหวตไม่ไว้วางใจ และกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่เสร็จ จะทำให้เกิดเดดล็อกทางการเมืองทันที
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ก.ค. ยังมีช่วงวันหยุดยาว 2 ช่วง คือช่วงกลางเดือนและช่วงปลายเดือน จึงเกรงว่าอาจจะเกิดกรณีที่รัฐบาลจะบีบให้เกิดการอภิปรายในช่วงที่มีวันหยุด ทำให้จำนวนวันอภิปรายถูกบีบให้น้อยลง หรือทำให้คนไม่สนใจการอภิปรายเท่าที่ควร ซึ่งรัฐบาลเคยทำมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม เราไม่คิดว่ารัฐบาลจะยื้อเวลาไปจนถึงเดือน ส.ค. ที่จะครบกำหนดการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ หากเห็นไปได้จึงต้องหารือกันเพื่อให้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อภิปรายในสภาครั้งสุดท้ายอย่างเต็มที่ อย่าเอาเทคนิคเรื่องเวลามาจำกัดสิทธิฝ่ายค้าน