2 เขย 1 สะใภ้ “ชินวัตร” บทบาทคุมธุรกิจ-ช่วยการเมือง
บทบาท 2 เขย 1 สะใภ้ “ตระกูลชินวัตร” “ณัฐพงศ์” สามี เอม พินทองทา คุมธุรกิจ บริหารเครือ “เอสซี แอสเสท” 9 บริษัท “ปิฎก” สามีอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ขยับช่วยงานการเมือง จับตาบทบาท “ณัฐฐิญา” ภรรยาโอ๊ค จะช่วยงานด้านใด
ตระกูล “ชินวัตร” ถึงคราวผลัดใบ ถึงเวลา “รุ่นลูก-เขย-สะใภ้” ก้าวขึ้นมาสานงานต่อ “พ่อแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “แม่อ้อ” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร
ยิ่งล่าสุด “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ มีครอบครัวเป็นคนสุดท้าย ซุ่มเงียบแต่งงานกับ “ตุ๊กติ๊ก” ณัฐฐิญา ปวงคำ ผู้บริหารโรงแรม SC Park ธุรกิจของตระกูลชินวัตร ช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ลูกๆ ทั้ง 3 คนของ “ทักษิณ-พจมาน” จึงเป็นฝั่งเป็นฝาครบทุกคน
คนแรก “เอม” พินทาทอง แต่งงานกับ “พงศ์” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 3 คน แฝดหญิง และลูกชาย
8 ปีต่อมา “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร แต่งงานกับ “ปอ” ปิฎก สุขสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2562 ที่ฮ่องกง เพิ่งมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเป็นทายาทของอดีตนายกรัฐมนตรี และคนในครอบครัวยังทำงานในพรรคเพื่อไทย การขยับตัวทำอะไร ย่อมถูกจับตาแทบทุกอย่างก้าว ไม่ว่าจะงานการเมือง หรือธุรกิจ
ทว่า จุดเด่นของทายาท “ทักษิณ-พจมาน” มีความแตกต่างกันมาก เช่นเดียวกับ “2 เขย 1 สะใภ้” ที่ถนัดงานกันคนละแบบ จึงได้เห็นบทบาทของแต่ละคน ที่แยกกันรับผิดชอบ ดูแลงานในด้านต่างๆ ตามที่ “ทักษิณ-พจมาน” วางทางเดินเอาไว้
“พินทองทา-ณัฐพงศ์” เดินหน้าช่วยงานด้านธุรกิจ โดย “ณัฐพงศ์” ซึ่งมีประสบการณ์จากธุรกิจครอบครัวมาก่อน เป็นกำลังหลัก เขาถูกวางตัวไว้เป็นกรรมการบริษัทในเครือ “เอสซี แอสเสท” กล่องดวงใจธุรกิจ “ชินวัตร” ไว้ทั้งหมด 9 แห่ง ดังนี้
1.บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SC อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร มีชื่อ “ณัฐพงศ์” เป็นรองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แต่มิได้อยู่ใน 10 ลำดับผู้ถือหุ้นใหญ่ (“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ถือหุ้นใหญ่สุด 28.83% “เอม” พินทองทา ถือรองลงมา 27.90%) นำส่งงบการเงินล่าสุดไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2565) มีรายได้รวม 3,854.24 ล้านบาท กำไรสุทธิ 387.68 ล้านบาท
2.บริษัท เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น จำกัด ทุน 50 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด (เอสซี แอสเซท ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 รายได้รวม 101,432 บาท ขาดทุนสุทธิ 74,968,738 บาท
3. บริษัท เอสซี แอสเสท ทรี จำกัด ทุน 50 ล้านบาท ธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยการเช่าและดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (เอสซี แอสเซท ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 มีรายได้รวม 4,381 บาท ขาดทุนสุทธิ 239,931 บาท
4.บริษัท เอสซี เอเบิล จำกัด ทุน 100 ล้านบาท ธุรกิจกิจกรรมบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ อสังหาริมทรัพย์ (เอสซี แอสเซท ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 รายได้รวม 72,044,921 บาท กำไรสุทธิ 16,541,270 บาท
5.บริษัท อัพคันทรี่ แลนด์ จำกัด ทุน 300 ล้านบาท ธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยการเช่าและดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (เอสซี แอสเซท ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 รายได้รวม 488,654,836 บาท กำไรสุทธิ 146,345,556 บาท
6.บริษัท สโคป ทาวเวอร์ จำกัด ทุน 10 ล้านบาท ธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองเพื่อการพักอาศัย (บริษัท สโคป จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 รายได้รวม 2,786 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,733,056 บาท
7.บริษัท สโคป จำกัด ทุน 100 ล้านบาท ธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองเพื่อการพักอาศัย (เอสซี แอสเซท ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 มีรายได้รวม 18,152,742 บาท ขาดทุนสุทธิ 120,988,567 บาท
8.บริษัท วี.แลนด์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทุน 500 ล้านบาท ธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยการเช่า และดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (เอสซี แอสเซท ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 รายได้รวม 1,190,414,401 บาท กำไรสุทธิ 188,811,532 บาท
9.บริษัท บริดจ์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ทุน 10 ล้านบาท ธุรกิจตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (เอสซี แอสเซท ถือหุ้นใหญ่สุด 99.99%) ปี 2564 รายได้รวม 154,848,697 บาท กำไรสุทธิ 8,198,536 บาท
แม้จะกุมบังเหียนธุรกิจของตระกูลชินวัตร และมีบทบาทชัดเจนในสายงานธุรกิจ แต่ว่ากันว่า “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” วัย 42 ปี ดีกรีปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ เดอพอล ยูนิเวอร์ซิตี้ เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา และปริญญาตรีสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความสนใจงานการเมืองไม่น้อย
จนมีกระแสข่าวเป็นระยะเมื่อใกล้เวลาเลือกตั้ง ว่าเขยคนโต อาจเป็นตัวแทนครอบครัว เข้ามานำพรรคเพื่อไทย เมื่อเวลาเหมาะสม
ขณะที่เขยรอง อย่าง ปอ “ปิฎก” ก่อนจะแต่งงานกับ อุ๊งอิ๊ง “แพทองธาร” ตามหน้าสื่อมีประวัติเพียงแค่ จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และประสบการณ์ทำงาน เพิ่งสอบเป็นนักบินของสายการบินแห่งหนึ่ง และไม่ปรากฎข้อมูลในด้านธุรกิจครอบครัว
ทว่า ในระยะหลัง “ปิฎก” เปลี่ยนบทบาทของตัวเองมาช่วยภรรยาในงานการเมืองมากขึ้น หลังจากอุ๊งอิ๊งตัดสินใจลงสนามการเมืองในฐานะ “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”
ว่ากันว่า ปอ “ปิฎก” รู้จักกับ “แพทองธาร” ผ่านการแนะนำของ “คณาพจน์ โจมฤทธิ์” อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ลูกพี่ลูกน้องของ “ปิฎก” และปัจจุบัน “คณาพจน์” ที่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปีจากกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ ได้เข้าไปมีบทบาทภายในพรรคเพื่อไทย โดยเป็นแถวหน้าของคนรุ่นใหม่ และเป็นพี่เลี้ยงทางการเมืองให้อุ๊งอิ๊งอีกสถานะ
บทบาทของ “ปิฎก” ปรากฏชัดเจนในหลายเวที และแทบทุกพื้นที่ ที่ “แพทองธาร” ปรากฏตัว คอยตามติดเป็นเงาตามตัว ดูแลความสะดวก ช่วยเหลือภรรยา
เส้นทางของ “แพทองธาร-ปิฎก” จึงชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเข้าสู่ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย และไม่พ้นถูกจับตาว่า เป้าประสงค์ในการช่วย “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” บิดาและอา กลับไทย เมื่อพรรคเพื่อไทยกลับเข้าสู่อำนาจการเมือในฐานะแกนนำรัฐบาล จะเป็นจริงได้หรือไม่
ขณะที่ สะใภ้ป้ายแดงของตระกูลชินวัตร อย่าง ตุ๊กติ๊ก “ณัฐฐิญา” วัย 35 ปี ที่พี่น้องชินวัตร เพิ่งประกาศเปิดตัวต้อนรับเป็นสมาชิกครอบครัวอย่างอบอุ่น มีเพียงประวัติการทำงาน ในธุรกิจครอบครัวชินวัตรเท่านั้น
ประวัติบนหน้าสื่อ จบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่ บริษัท ริชบลู พร๊อพ เพอร์ตี้ จำกัด และปัจจุบันทำงานเป็นผู้บริหารโรงแรม เอส.ซี.พาร์ค
เมื่อก้าวเข้ามาสู่ครอบครัวนักธุรกิจการเมือง เธอจึงถูกจับตาว่า จะถูกวางตัว ให้ช่วยดูแลงานด้านใด ในเส้นทางของ โอ๊ค “พานทองแท้” ทายาทคนโตของอดีตนายกฯ ผู้โด่งดัง