"อธิบดีกรมควบคุมโรค" คาด สถานการณ์โควิดรุนแรงขึ้น จากปาร์ตี้
"หมอโอภาส" เผย "ศบค." ถก 8 ก.ค.นี้ จ่อ ลดวันกักตัว จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน แบ่งเป็น 5+5 กักเดี่ยว-ดูอาการ แจง โควิด โรคประจำถิ่น 1ก.ค. แค่กรอบกว้างๆ คาดสถานการณ์รุนแรงขึ้น จากปาร์ตี้ แจง ป่วยหนักเพิ่มไม่มาก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีการนับวันแพร่เชื้อหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดเชื้อโควิด-19 หลังปฏิบัติภารกิจที่ประเทศฝรั่งเศสว่า เราทราบดีว่า เวลาแพร่เชื้อคือ 2 วันก่อนมีอาการ และ3 วันหลังมีอาการ จากนั้นจึงนับวันมีอาการเริ่มต้นไปอีก 7 วัน ถ้านับวันที่นายอนุทินติดเชื้อก็เกิน 10 วันไปแล้ว เพราะฉะนั้นไม่น่าจะมีปัญหา และตอนท่านไปออกงาน ท่านยืนห่างจากคนอื่น ตามหลักการทางการแพทย์ที่เน้นย้ำให้มีระยะห่างทางสังคม
นพ.โอภาส กล่าวว่า วันศุกร์นี้ (8ก.ค.) จะมีการประชุมหารือของศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่จะมีมาตรการผ่อนปรนระยะเวลากักตัวจากแต่ก่อนใช้ 14 วัน และตอนนี้ใช้เวลา 10 วัน แบ่งเป็น 7 วันแยกกักเดี่ยว 3 วันดูอาการ แต่การประชุมที่จะถึงนี้ คณะกรรมการแพทย์ด้านวิชาการจะมีการพิจารณาโดยใช้มาตรการ 5+5 คือ 5 วันกักเดี่ยว และ 5 วันดูอาการ
นพ.โอภาส กล่าวถึงการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นว่า คงต้องรอศบค.พิจารณามาตรการด้านการแพทย์ สาธารณสุข และสังคม อีกทั้งมาตรการด้านกฎหมายที่ต้องเยียวยาพี่น้องประชาชนให้รอบคอบ ซึ่งวันศุกร์นี้จะมีการนำเรียนแก่ประชาชน ส่วนกรอบเวลาที่กำหนดไว้1 ก.ค. นั้นเป็นการกำหนดกรอบกว้างๆ
"ในนิยามกฎหมาย ไม่มีคำว่าโรคประจำถิ่น มีแต่โรคติดต่อ โรคติดต่อต้องเฝ้าระวัง และโรคติดต่ออันตราย ถ้าจะลดระดับคงเหลือแค่เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง" นพ.โอภาส กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ในช่วงนี้มีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า เราคาดการณ์กันอยู่ว่า สถานการณ์การแพร่เชื้อจะรุนแรงขึ้น ส่วนใหญ่จะเจอจากงานเลี้ยง หรืองานปาร์ตี้ แต่ที่เราตามดูอยู่คือ สภาวะรองรับการรักษาผู้ป่วยหนัก ในภาพรวมประเทศ ผู้ป่วยหนักไม่ได้เพิ่มมากขึ้น และการประกาศให้เฝ้าระวัง นอกจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข (นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต) ก็มีปลัดกระทรวงมหาดไทย (สุทธิพงษ์ จุลเจริญ) ที่ได้มีการทำหนังสือให้ข้าราชการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดต่อไป