"ชัยวุฒิ" เยือน "กัมพูชา" เซ็นMOU ปราบ Call Center เปิดทางส่งผู้ร้ายข้ามแดน
"ชัยวุฒิ" เดินทางเยือน "พนมเปญ" ลงนาม MOU ร่วม รมว.ไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ปราบปรามแก๊ง Call Center หลอกลวง ผู้เสียหายจำนวนมาก ทั้งหารือแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือ ตั้งคณะทำงาน อำนวยความสะดวกส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ที่กระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคม กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เข้าหารือทวิภาคีกับนายเจีย วันเดค (Mr. Chea Vandeth) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ Hybrid Scam โดยมีคณะทำงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศเข้าร่วม
โดยการลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้เป็นผลลัพธ์สำคัญจากการหารือและดำเนินการร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่เดือน ส.ค.64 หลังจากที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากจากการถูกหลอกลวงจากคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกชักชวนให้ร่วมลงทุน และแก๊งพนันออนไลน์หลายเว็บไซต์ โดยปัญหาดังกล่าวได้ทวีความรุนแรงและสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องแก่ประชาชนชาวไทยและหน่วยงานภาครัฐที่ถูกแอบอ้าง ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้ดำเนินการจากประเทศกัมพูชา จึงนำมาสู่การหารือแบบทวิภาคีและการลงนาม MOU ร่วมกันในวันนี้
ระหว่างการหารือทวิภาคี ทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมหารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ Hybrid Scam และการดำเนินการร่วมกัน อาทิ การจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อใช้ในการสืบหา หลักฐานในประเทศไทยและกัมพูชา และขยายการสืบสวนเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิด และการประสานงานและอำนวยความสะดวกในกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมหารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านดิจิทัล ไอซีที และการไปรษณีย์โดยฝ่ายกัมพูชามีความสนใจด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้มีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือและองค์ความรู้ในสาขาที่มีความสนใจร่วมกันต่อไป
นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า หลังจากการลงนาม MOU ครั้งนี้ จะมีการตั้งคณะทำงานที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีกระบวนการทำงานจากตรวจสอบจากข้อร้องเรียนว่ามีคนร้ายขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่จุดไหน จะมีการร่วมกันเข้าจับกุมปราบปรามคนร้าย ส่งกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทราบพิกัดการกระทำผิดจะมีการปิดกั้นสัญญาณและเข้าจับกุม
“การตั้งคณะทำงานร่วมจะทำให้การระบุพิกัด การดำเนินคดี การส่งผู้ร้ายข้ามแดนทำได้เร็วขึ้นเชื่อว่าถ้ากระบวนการนี้สำเร็จ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะทำงานได้ยากขึ้นและจะหมดไปในที่สุด” นายชัยวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ได้ขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา ที่ให้ความร่วมมือและใส่ใจในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอย่างมาก ทำให้ไทยสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ เป็นผลมาจากความสัมพันธ์อันดีเยี่ยมของทั้งสองประเทศ
นายชัยวุฒิ ย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่ในระดับกระทรวงระหว่างประเทศเท่านั้น แต่เป็นการประสานงานกันตั้งแต่ในระดับนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทางนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไปให้ได้ เชื่อว่าความร่วมมือของทั้ง 2 รัฐบาลจะทำให้งานนี้สำเร็จแน่นอน
ขณะที่นายเจีย วันเดค กล่าวเสริมว่า เป้าหมายของการลงนาม MOU ครั้งนี้เพื่อทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และกิจกรรมผิดกฎหมายทั้งหมดในกัมพูชาและหมดไป เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานร่วมกันหลังจากนี้จะมีประสิทธิภาพและสามารถปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายได้จริง โดยผู้นำของทั้งสองประเทศ ได้เน้นย้ำให้ทำงานร่วมกัน เพราะเราต่างมีความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้นเป็นอย่างดียิ่ง จะทำให้การปราบปรามอาชญากรรมครั้งนี้ราบรื่นได้ตามเป้าประสงค์อย่างแน่นอน