"ศท.-กลุ่ม 16" ข่มขวัญ"ประยุทธ์" "จุดเปลี่ยน" เกมซักฟอก ?
เมื่อ "ลำปางแลนด์สไลด์" กลายเป็นปัจจัยบีบ "พรรคเศรษฐกิจไทย" และ "ผู้กองธรรมนัส" ต้องประกาศจุดยืนเลือกข้างที่ชัดเจน จากนี้ต้องจับตาเกมต่อไป นั่นคือ "ศึกซักฟอก"ที่จะเปิดฉากในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ปรากฎการณ์ล้มแชมป์ ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 4 จ.ลำปาง หลัง “หนานแมว” เดชทวี ศรีวิชัย จากพรรคเสรีรวมไทย
สามารถปักธงสนาม“เมืองรถม้า” เป็นส.ส.เขต คนแรกของพรรคเสรีรวมไทย โดยเอาชนะแชมป์เก่าอย่าง “วัฒนา สิทธิวัง” จากพรรคเศรษฐกิจไทย ด้วยคะแนนทิ้งห่าง 55,638 ต่อ 30,451
ทำให้กลเกมการเมืองยามนี้ มีการจับตาไปที่เรตติ้งพรรคการเมือง ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกตั้งสนามใหญ่ รวมถึงการจับขั้วตั้งรัฐบาลหลังจากนี้
คล้อยหลังศึกลำปางเพียงวันเดียว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย โพสต์ข้อความยอมรับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากกระแสขั้วประชาธิปไตยที่มาแรง นับตั้งแต่ศึกเมืองหลวงที่ผ่านมา บวกความความไม่ชัดเจนของพรรคเศรษฐกิจไทยว่าตกลงแล้วอยู่ฝั่งไหนกันแน่
“ผมเข้าใจแล้วว่าพี่น้องประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง และผมก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันครับ” ผู้กองธรรมนัสยอมรับถึงปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยพ่ายแพ้
จึงนำมาสู่การส่งสัญญาณ ด้วยการลาออกจากกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ของ 2 ส.ส.เศรษฐกิจไทย ทั้ง “บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ “ไผ่ ลิกค์” ส.ส. กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค ที่ล่าสุดทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ท่ามกลางกระแส “บีบเลือกขั้ว” จากศึกเลือกตั้งที่เกิดขึ้น
ก่อนที่ “ผู้กองธรรมนัส” จะออกมาประกาศจุดยืนแบบชัดๆ ไร้ข้อสงสัยอีกครั้ง
“จากนี้ไปพรรคเศรษฐกิจไทย เตรียมตัวไปทำงานร่วมกับฝ่ายค้านอย่างชัดเจน”
ไม่ต่างจาก “กลุ่ม 16” นำโดย “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นัดหารือท่าทีการร่วมรัฐบาลในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ก่อนการเปิดฉากซักฟอกเพียง1วัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องจับตาสเต็ปต่อไป คือ “ศึกซักฟอก”ที่กำลังจะเปิดฉากในวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยเฉพาะตัวเลข “30 เสียง” ตัวแปรล้มรัฐบาลที่ฝ่ายค้านพยายามโหมโรงก่อนหน้านี้
โดยจำนวนนี้มาจาก 16 เสียงจากพรรคเศรษฐกิจไทย บวกกลุ่ม 16 ที่มีอยู่ราว 10 กว่าเสียง
จากเดิมที่รอสัญญาณกดปุ่มจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
แต่เมื่อผู้กองออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนเช่นนี้ ถึงวันจริงจะยังกล้าโหวตอุ้ม พล.อ.ประยุทธ์ หรือ รัฐมนตรีคนอื่นๆ ให้อยู่ต่ออีกหรือไม่
ขณะเดียวกัน ศึกซักฟอกที่กำลังเกิดขึ้น ยังถือเป็นศึกวัดบารมีของ “บิ๊กป้อม” รวมถึงตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ายังสามารถคอนโทรลพรรคเล็กได้หรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่า “2 ป.” มีสัญญาใจกับพรรคเล็ก ในการดันสูตร ส.ส.หาร 500 ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า มีข้อแลกเปลี่ยนในการโหวตสนับสนุนศึกซักฟอก
สะท้อนภาพชัดจากผลคะแนนโหวต “สูตร ส.ส.” ท่ามกลางกระแสใบสั่งจากตึกไทยคู่ฟ้า ที่พบว่า มีพรรคเล็กโหวตหนุนสูตรหาร 500 เป็นส่วนใหญ่
โดยเฉพาะสมาชิกกลุ่ม 16 ที่ก่อนหน้านี้ขึงขังพร้อมตรวจสอบรัฐบาล ถึงเวลากลับลงมติเสียงแตกออกเป็น 2 ทาง
ในส่วนของ พีรวิทย์ เรื่องลือดลภาค เห็นด้วยตามกรรมาธิการ ที่ให้ใช้สูตร ส.ส.หาร 100
ขณะที่ สุรทิน พิจารณ์ หรือ คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับสูตรหาร 100 ตามที่กรรมาธิการมีการแก้ไข หรือแม้แต่ พิเชษฐ ที่เลือก ไม่ลงคะแนน
เช่นเดียวกับ 16 เสียง พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งลงมติสูตร ส.ส.แตกเป็น 2 ทาง โดย 9 เสียง เห็นด้วยกับสูตรหาร 100 ขณะที่ 2 เสียงไม่เห็นด้วยกับสูตรหาร 100 ส่วนอีก 5 เสียง ไม่ลงคะแนน
ฉะนั้น “ศึกซักฟอก”ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกเหนือจะเป็นศึกวัดบารมี “2 ป.” ในการควบคุมเสียง อุ้มรัฐบาล “อยู่ต่อ” หรือ “พอแค่นี้” แล้ว
ยังถือเป็นศึกวัดบารมี “ผู้กองธรรมนัส” ที่ยามนี้ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอย่างชัดเจน ว่าจะการคอนโทรล “16 เสียงเศรษฐกิจไทย” รวมถึง “กลุ่ม 16” ที่ก่อนหน้านี้เสียงแตกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้หรือไม่
หรือจะมี “บิ๊กดีล” มี“มหกรรมแจก...อะไร” หลังจากนี้ต้องติดตาม