"หมอสุกิจ"ยกรธน.-ข้อบังคับ สวน "เรืองไกร" ยันญัตติซักฟอกถูกต้องสมบูรณ์
"หมอสุกิจ"ยกรัฐธรรมนูญ-ข้อบังคับประชุมสภา สวน "เรืองไกร" ยืนยันปมลงชื่อญัตติซักฟอกเพิ่มทำได้หากยังไม่บรรจุวาระ
ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าว กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
ให้ข่าวแก่สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 65 ว่า ได้ส่งหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ค.65 นี้
เนื่องจากเว็บไซต์สภา ระบุว่า ญัตติดังกล่าวมี นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนนราษฎรกับคณะ รวม 186 คน
โดยมีเอกสารที่ระบุว่า ญัตติดังกล่าวมาจากเลขรับที่ 7/2565 วันที่ 15 มิ.ย. 2565 จำนวน 186 คน สะดุดตา เพราะตามสำเนาญัตติเดิมซึ่งเป็นบับลายมือชื่อตามเลขรับที่ 7/2565 มี ส.ส. เข้าชื่อรวมเพียง 182 คน แต่ในฉบับพิมพ์ กลับมีจำนวนรวม 186 คน
ข้อเท็จจริงคือ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เสนอญัตติเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2565 เวลา 13.20 น. ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
ได้รับญัตติด้วยตนเอง และหนังสือลงเลขรับที่ 7/ 2565 ตอนยื่นญัตติตอนนั้นมีผู้ร่วมเสนอญัตติ 182 คนซึ่งเป็นจำนวนเกินหนึ่งในห้าของสมาชิกฯ ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 151 ที่ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ
จากนั้นเวลา 16.10 น. ของวันเดียวกัน นายชลน่าน ขอเพิ่มจำนวนผู้เสนอญัตติอีก 4 คน โดยทำหนังสือมาถูกต้องเรียบร้อย เลขรับหนังสือที่ 8 / 2565 ทำให้มีจำนวนผู้ร่วมเสนอญัตติเป็นจำนวน 186 คน และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้อนุญาตให้บรรจุในระเบียบวาระเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.65
แม้จะเพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก 4 คน ก็ตาม จำนวนคนที่เสนอญัตติก็ยังมากกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งถูกต้องตามรัฐธรรมนูญฯ และสามารถเป็นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ซึ่งก่อนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะอนุญาตให้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ
ทั้งนี้การแก้ไขเพิ่มเติมรายชื่อสามารถทำได้ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 61 การแก้ไขเพิ่มเติมญัตติหรือการถอนญัตติที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมของที่ประชุม
หมายความว่า ตราบใดที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังไม่อนุญาตให้บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องขอมติจากที่ประชุม การยื่นญัตติในขณะนั้นก่อนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะอนุญาตให้บรรจุเข้าระเบียบวาระยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ และกรณีนี้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้ทำเป็นหนังสือยื่นมาถูกต้อง จึงขอแจ้งให้
นายเรืองไกร และทุกคนทราบโดยทั่วถึงกัน