"ประยุทธ์" โชว์ผลงาน2ปีโควิดต่างชาติชื่นชม ลั่นไม่แบ่งฝ่าย
"ประยุทธ์" แจงสภาฯโต้ฝ่ายค้าน โชว์ผลงาน2ปีโควิดต้นแบบหลายประเทศ สวนฝ่ายค้านหลัก 3 ดี คือ "หลักการดี -ข้อมูลดี-น้ำใจดี" ทุกอย่างก็จะราบรื่น ลั่นโชคดีไม่ได้พิการทางสมอง
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา151
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีอีกครั้ง ที่เรากลับมาพบกันในช่วงเวลาสำคัญของชาติ ที่เราจะช่วยกันถกแถลงทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพราะวันนี้เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนที่เป็นฝ่ายข้างนอกก็ไม่รู้ว่าไหนเหมือนกันที่ลงคะแนนลงมติกันข้างนอก ตนก็ไม่เคยได้ยิน ไม่อยู่ในระบบบริหารราชการแผ่นดิน
วันนี้ประเทศมีปัญหามากมาย ท่านตั้งโจทย์เยอะแยะ แต่ท่านไม่ฟังว่ารัฐบาลทำอะไรบ้าง หรือท่านฟังไม่ครบหรือฟังโดยใช้อวัยวะข้างเดียวไม่ได้ฟังสองข้าง ท่านค่อนข้างจะพูดรุนแรงเหมือนกัน เราจำเป็นต้องละทิ้งทิฐิอคติ ผลประโยชน์ส่วนตนไว้ข้างหลัง และนึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ถ้าเรามีความรักสามัคคีกันจะช่วยกันแก้ทุกปัญหาได้
อาทิ กรณีโควิด - 19 สองปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในการรับมือเป็นอย่างดี เป็นการทำงานแบบบูรณาการ หลายประเทศเอาแบบอย่างเราไปทำ ทุกอย่างเกิดจากความร่วมมือ และเสียสละของทุกคน แต่ท่านมองข้างเดียว และที่ท่านพูดถึง 608 ท่านต้องให้เกียรติคนกลุ่มนี้ด้วย เป็นประชากรสูงอายุ เราต้องให้ความสำคัญคนเหล่านี้โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราได้รับความยกย่องชื่นชม และเปิดประเทศได้อย่างยั่งยืน คือวันนี้เราเปิดประเทศได้มากขึ้นตามลำดับ รายได้เข้าประเทศมากขึ้น ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า นายกฯ ไม่ใช่คนรู้ทุกเรื่อง เก่งทุกเรื่อง หรือฉลาดที่สุด เหมือนบางคนที่ท่านบอกฉลาดที่สุดแต่ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ดังนั้น ทุกความสำเร็จพิสูจน์ได้ด้วยตัวเลข ท่านไม่เห็นหรือไม่ดูอะไรเลย การอภิปรายครั้งนี้เหมือนทุกครั้งเป็นเรื่องที่ตนและรัฐมนตรีได้ยินมาทุกครั้งทั้งใน และนอกสภา แต่พวกตนก็พร้อมให้ความกระจ่างทุกประเด็น ส่วนวิสัยทัศน์ ความเป็นผู้นำประเทศ ตนก็ไม่ได้ด้อยค่าไปกว่านายกฯท่านอื่นๆ หรืออดีตนายกฯของท่าน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องความขัดแย้งของคนในชาติ 10 กว่าปีมาแล้ว ตนไม่ใช่คนที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ขอให้ย้อนกลับไปดูพฤติกรรม ดูความผิด และดูคนที่ติดคุก แม้ว่าเรามีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่าง แต่เราต้องทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
"ผมไม่ใช่คนที่ต้องการให้แบ่งพวกแบ่งฝ่าย ท่านก็รู้พฤติกรรมดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นในประเทศ ท่านบอกผมบังคับใช้กฎหมายละเมิดสิทธิมนุษยชน อยากถามกลับว่าเป็นกฎหมายปกติใช่หรือไม่ แต่หลายคนอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้"
ทั้งนี้ หากท่านมองด้วยหัวใจ ท่านจะสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน ในรูปแบบต่างๆที่เกิดความเปลี่ยนแปลง ท่านบอกตนพูดถึง 2 ปี อยากอยู่ต่อไม่อยู่ต่อ ขอให้ไปดูว่าที่ตนพูดหมายความว่าอะไร ตนพูดว่าอีก 2 ปี จะผลิดอกออกผล ไม่ได้บอกว่าขออยู่อีก 2 ปี จะเอาทุกเรื่องมาตีหมดแบบนี้ไม่ได้
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ขอให้ช่วยกันปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ โดยใช้หลัก 3 ดี คือ หลักการดี ข้อมูลดี และน้ำใจดี ทุกอย่างก็จะราบรื่น
"ผมไม่เคยพูดว่าตัวเองดีที่สุด เก่งที่สุด ท่านตีความไปเอง หลายอย่างที่ท่านพูดไม่ใช่ข้อเท็จจริง ท่านว่าผมมีอาการพิการทางสมอง ผมก็โชคดีเพราะถ้าตนเป็นก็คงรักษากับท่านไม่ได้"
ส่วนเรื่องการใช้กลไกทหารทำงาน ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกสมัยใครเป็นนายกฯ ถ้าไม่ละเมิดคนอื่นก็ใช้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น ท่านบริหารไม่เป็นเอง ท่านไม่ใช้เพราะไม่ไว้ใจทหาร ทุกวันนี้ถ้าไม่มีทหาร ตำรวจ ดูแลท่านจะนั่งอยู่ตรงนี้ได้หรือไม่
“ท่านลองไปหาสิ่งที่ดีๆ มองด้วยสายตา 2 ข้าง หู 2 หู จะได้เห็นอะไรที่ดีๆบ้าง สรุปที่ท่านพูดทั้งหมดไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด และไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง ผมจำเป็นต้องชี้แจง ขอให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าแรงมาผมก็พยายามจะแรงน้อยกว่าท่าน ผมรู้อยู่แล้วว่าท่านต้องการให้ผมโมโห ขอให้ให้เกียรติกัน ถ้าอยากได้รับเกียรติจากคนอื่นก็ต้องรู้จักให้เกียรติคนอื่น ถ้าโจมตี ให้ร้าย ส่อเสียด ดูแล้วไม่เป็นสุภาพบุรุษ ผมไม่อยากฟังในสภานี้ แต่ผมให้เกียรติสภา ให้เกียรติประธาน และสมาชิกทุกคน ผมจำเป็นต้องชี้แจง เพราะผ่านมาชั่วโมงเต็มๆ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเลย ผมทราบดีว่าท่านคงชื่นชมหลายคนที่เคยทำงานมาก่อน ว่าดีกว่าผม แต่ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว