อัด"หลุมดำ" กัญชา! ฝ่ายค้าน ปูด นักการเมืองใหญ่เมืองนรา "กินกล้วยผสมกัญชา"
ฝ่ายค้านอัด อัด "อนุทิน" จงใจปล่อย"หลุมดำ-สุญญากาศ" กัญชาเสรี "ประชาชาติ" ปูด นักการเมืองใหญ่เมืองนราฯ "กินกล้วยผสมกัญชา"
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา151 นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข จงใจสร้างสุญญากาศทางกฎหมายในการควบ คุมกัญชา จนทำให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชน เสี่ยงมีปัญหาทางการทูต การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนพ.วาโยได้เปิดคลิปเมื่อครั้งที่นายอนุทินได้มีการหาเสียงโดยระบุถึงนโยบายกัญชา
โดยนพ.วาโย กล่าวต่อ นายอนุทิน อ้างว่า การปลดล็อกกัญชานั้นเป็นการปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ที่ผ่านกลับโฆษณาชวนเชื่อกับประชาชนว่าทุกคนจะปลูกกัญชาได้จนร่ำรวย สามารถนำกัญชาไปผสมอาหารหรือเสพได้ ซึ่งเหล่านี้ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของกัญชาทางการแพทย์เลย
นอกจากนี้ภายหลังในวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อพืชกัญชาและกัญชงได้ถูกปลดล็อกไปแล้ว แต่กลับไม่มีกฎกระทรวง หรือกฎหมายย่อยใด ๆ เข้ามาควบคุมการใช้ประโยชน์ทางสันทนาการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมอายุของผู้ครอบครอง การซื้อขาย หรือการควบคุมการใช้ส่วนของกัญชานอกเหนือจากจุดประสงค์ทางการแพทย์ เกิดเป็นสุญญากาศทางกฎหมาย จนสร้างความกังวลให้กับประชาชนจำนวนมาก นายอนุทิน จึงออกประกาศลักษณะปาหี่ตบตาประชาชน แต่ไม่มีสภาพบังคับใช้จริง และประกาศเป็นสมุนไพรควบคุม ซึ่งห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามจำหน่ายให้กับคนอายุต่ำกว่า 20 ปี และห้ามใช้กับสตรีมีครรภ์เท่านั้น
ทั้งนี้มองว่า นายอนุทิน จงใจสร้างสุญญากาศทางกฎหมาย ที่ผ่านมา นายอนุทิน ส่งเสริมการผลิตกัญชา โดยอ้างว่าเพื่อรองรับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ โดยผูกให้วิสาหกิจชุมชน 1 แห่งทำร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 1 แห่งเท่านั้น และให้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นผู้รับซื้อ
แต่สุดท้าย อย. ไม่ได้รับซื้อในจำนวนที่คาดไว้ เพราะหมอไม่ใช้ นักวิจัยไม่เขียนโครงการ จึงต้องหาช่องทางปล่อยของ
“พรรคก้าวไกลสนับสนุนการปลดล็อกกัญชาทั้งทางการแพทย์และเพื่อสันทนาการ แต่จำเป็นต้องมีการควบคุมอย่างเหมาะสม เพราะแม้กัญชาจะมีประโยชน์ในการรักษาบางโรค แต่ก็มีหลักฐานยืนยันโทษของกัญชาเช่นกัน โดยเฉพาะกับพัฒนาการของเด็กและเยาวชน”
นอกจากนี้ การปล่อยให้ไม่มีการควบคุมกัญชาจนร้านค้านำไปผสมอาหารโดยไม่แจ้งผู้บริโภค จนทำให้เกิดความหวาดกลัวผลข้างเคียงของกัญชา ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยวไทยก็กลัวว่าหากกินอาหารที่ผสมกัญชาเข้าไปโดยไม่รู้ตัวก็อาจเกิดปัญหากับประเทศต้นทาง จนอาจกระทบกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยอย่างมากด้วย
ด้านนายกูเฮง ยาวอหะหะซัน ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติกล่าวว่า วันนี้มีความพยายามจะบอกว่าเราจะใช้กัญชาเพื่อการแพทย์แต่เราลืมไปว่าเราไม่ได้ดูก่อนว่ามีกฎหมายรองรับหรือไม่ การเสนอกฎหมายเข้าสู่สภามีความตั้งใจจะให้เกิดสุญกาศและหลุมดำในสภา
ทั้งนี้ประเด็นปลูกเพื่อสันทนาการเป็นประเด็นที่ตนติดใจเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงสุญกาศกลับพบการจำหน่ายกัญชา2-8แสนบาทต่อกิโลกรัม นี่คือสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราถูกหลอก เพราะวันนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ประโยชน์โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเอาผิดได้
“มีนักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่งในจ.นราธิวาส ผมลงพื้นที่ชาวบ้านถามว่าท่านส.ส.ท่านอยากกินกล้วยเหรอ วันนี้มีส.ส.ของพวกเราไปกินกล้วยยังไม่พอ ไปกินกล้วยผสมกัญชาวันนี้ยังหาทางกลับบ้านไม่เจอ
นี่คือสิ่งที่ชาวบ้านพูดกันจะบอกว่าวันนี้กัญชาอาจจะร้ายแรงกว่ากล้วยใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอให้รัฐมนตรียุติ ชะลอเรื่องนี้ หรือทำอย่างไรให้กัญชาอย่าเพิ่งแพร่ระบาดในขณะนี้” นายกูเฮงกล่าว