“ก้าวไกล” โหมโรงจับตา “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ซักฟอก “กลาโหม” เรื่องใหม่ ข้อมูลแน่น
“ก้าวไกล” โหมโรงให้ประชาชนจับตาซักฟอกมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” แบไต๋เปิดโปงทุจริตในกระทรวงกลาโหม ยันข้อมูลแน่น-เรื่องใหม่ เชื่อจะสังคมจะรู้ถึงภัยรัฐบาลชุดนี้ ไม่สนงูเห่า ลั่น ส.ส.ในพรรคที่เหลือลงมติทิศทางเดียวกัน
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคก้าวไกล ว่า ส.ส. ของพรรคได้เปิดเผยพยานหลักฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่รัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลมีความผิดมากน้อยอย่างไร หลังจากนี้คาดหวังว่า การอภิปรายส่วนที่เหลือจะเป็นส่วนที่ทำให้ตัดสินใจลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
นายพิจารณ์ กล่าวว่า การอภิปรายในวันนี้ จะเริ่มต้นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ โดยพรรคก้าวไกลมีผู้อภิปราย 3 คน แบ่งเป็น
- นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้อภิปรายคนแรก ที่จะเปิดเผยถึงการทุจริตคอรัปชันภายในกระทรวงกลาโหม ที่เรียกว่าสร้างการสูญเสียให้กองทัพเป็นอย่างมาก
- ตน เป็นผู้อภิปรายคนที่ 2 โดยจะเปิดเผยว่ารัฐบาลนี้เป็นอาชญากรสงครามไซเบอร์ที่ใช้เล่นงานประชาชน
- น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้อภิปรายคนที่ 3
พร้อมยืนยันว่า มีข้อมูลและมีเซอร์ไพรส์ให้ประชาชนได้ติดตาม โดยเฉพาะการเปิดเผยถึงความผิดด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรี ที่นำความเดือดร้อนไปสู่ประชาชน ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค จะร่วมอภิปรายในวันสุดท้าย
สำหรับทิศทางการลงมติของพรรคนั้น นายพิจารณ์ กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีงูเห่าภายในพรรค เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นแค่ ส.ส.ในนามพรรค แต่ทางพฤตินัยไม่ได้อยู่กับพรรค ส่วน ส.ส. คนอื่น มั่นใจจะลงมติไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนการอภิปรายที่ผ่านมารัฐมนตรีหลายคนบอกว่า ฝ่ายค้านนำข้อมูลเก่ามาอภิปรายนั้น นายพิจารณ์ มองว่า การเปิดเผยข้อมูลไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก่าหรือเรื่องใหม่คงไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ว่าเรื่องนั้นยังเป็นข้อกังขา หรือเป็นข้อสงสัยของประชาชนอยู่หรือไม่ เช่น เรื่องนาฬิกาหรู การจัดซื้อ GT-200 ที่ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่ ทำให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจมีส่วนที่ทำให้เนื้อหาบิดเบือนหรือล่าช้า ซึ่งประเด็นเหล่านี้ถูกทำให้กระจ่างชัดแล้วหรือยัง แต่ยืนยันว่า ข้อมูลในวันนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่ประชาชนจะตระหนักถึงภัยที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้