"ชัชชาติ" เผย จ่อ เคาะราคาเก็บส่วนต่อขยาย สายสีเขียว หวั่น หนี้พอก "กทม."
"ชัชชาติ" เผย 1-2สัปดาห์ ชัดเจนราคาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ ยันต้องจัดเก็บ แต่อยู่ระหว่างพิจารณาไม่ให้ตลอดทั้งสายเกินราคาเดิมที่ 59บาท เขื่อไม่เกิดดราม่า เพราะทุกอย่างอยู่บนข้อเท็จจริง และต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร บอกถึงความชัดเจน ระหว่างลงพื้นที่ ชุมชนบ้านครัวใต้ ถึงเรื่องการหารือระหว่างบอร์ดบริษัทกรุงเทพธนาคม (KT) และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ BTSC เกี่ยวกับประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเรื่องสัทปทาน และการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย
โดยระบุว่าการหารือครั้งล่าสุด ก็ได้ข้อสรุประดับหนึ่ง ในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะต้องดู2 เรื่อง คือเรื่องแรกความสัมพันธ์ระหว่าง กทม.และ KT เป็นอย่างไร ที่สำคัญสุดจะดูว่าจะจัดการเรื่องหนีอย่างไร จะจ่ายได้แค่ไหน สภา กทม.จะมองอย่างไรเพราะสุดท้ายสภา กทม.เป็นผู้อนุมัติแต่ตอนนี้สภายังติดพิจารณางบประมาณอยู่
ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องการคิดราคาส่วนต่อขยาย ส่วนที่ 2 ขณะนี้สำนักจราจรและขนส่ง ของกรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างทำเรื่อง เหลือการคำนวณและประกาศราคา แต่ต้องใช้เวลา เพราะต้องใช้เวลาให้ทาง BTSC เตรียมตัว 1 เดือน
ส่วนเรื่องระหว่าง KT กับ BTSC ต้องไปคุยกัน ส่วน KT กับ กทม.ต้องไปดูว่ามีความสัมพันธ์อย่างไร เพราะถ้า กทม.จะเอาเงินไปจ่ายให้ KT ก็ต้องมั่นใจว่าสัญญาถูกต้อง และได้รับการอนุมัติตามขั้นตอน
ทั้งนี้คาดว่า การกำหนดราคาส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ที่เรายังไม่ได้เก็บเงิน จะได้ความชัดเจนในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งราคาจะใช้ไปถึงปี 2572 ในส่วนนี้ต้องรีบ เพราะ กทม.เสียค่าจ้างเดินรถเดินรถปีละหลายพันล้านบาท แต่เราไม่ได้เก็บเงินเลย ทำให้เป็นหนี้สะสม ดังนั้นต้องหารายได้เข้ามา แต่ต้องคิดอย่างละเอียดไม่อยากให้เป็นภาระพี่น้องประชาชน อย่างที่สภาองค์กรผู้บริโภคเรียกร้องไม่อยากให้เก็บเพิ่ม อยากให้เก็บที่ราคา 44 บาท (ราคาเดิมตลอดสาย) ซึ่งคิดแล้วจะกระทบต่อรายได้ของ กทม. ทำให้มีหนี้มากขึ้น ก็ต้องหากรอบที่ไม่เกินราคาเดิมที่เคยกำหนดไว้ 59 จะคิดอย่างไรมีสูตรให้อยู่ น่าจะประกาศได้ราคาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
ส่วนจะกังวลว่าจะเกิดดราม่าหรือไม่หากมีการจัดเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย นายชัชชาติ บอกว่า ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าเราให้นั่งฟรี แต่ กทม.ต้องเสียค่าใช้จ่าย กลายเป็นว่าทุกคนในกรุงเทพ ต้องจ่ายค่าโดยสารในส่วนนี้อยู่ ในแง่หนึ่งไม่เป็นธรรมเท่าไร ต้องคุยกันด้วยเหตุผล คงจะไม่มีดราม่า เพราะเป็นข้อเท็จจริง และอีกอย่างคือมันมีผลกระทบกับรถสาธารณะด้านล่าง ถ้าข้างบนวิ่งฟรีข้างล่างก็ทำมาหากินลำบาก แต่ละปีเป็นหนี้ 4-5 พันล้านบาท ซึ่งคอนข้างหนัก ถ้าไม่เก็บเลยจะเป็นหนี้ไปเรื่อยๆ และ กทม.จะไปดูรายได้จากโฆษณาด้วย จะเอามาจุนเจืออย่างไร แต่ทั้งหมดต้องเข้าสภา กทม.ก่อน เพราะส่วนต่างที่เหลือ ที่ กทม.ต้องจ่ายโดยงบประมาณ สภา กทม.ต้องรับรู้ ว่าเก็บราคาเท่านี้ แล้วจะมีส่วนต่างที่ กทม.ต้องจ่ายเท่าไร เพราะสภาต้องพิจารณางบประมาณไปจ่าย