รัฐสภาข้างมาก บีบ "กมธ.กม.ลูก" ถอนร่าง กม.เลือกตั้ง หลังยื้อกันนาน3ชม.

           เมื่อเวลา 11.00 น. การประชุมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ได้กลับมาพิจารณาอีกครั้งหลังจากที่พักการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง

 

           ทั้งนี้ นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว. ฐานะรองประธานกมธ.ฯ คนที่หนึ่ง รายงานถึงผลการพิจารณาของกมธ. ว่า กมธ. ได้ประชุมอย่างเคร่งเครียด และมีความเห็นตามมติของกมธ.เสียงข้างมาก 16 ต่อ 5 เสียง เห็นว่า กมธ.จะยืนยันตามร่างรางานเดิมที่นำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณา ส่วนมาตรา  23 ว่าด้วยสูตรคำนวณส.ส. ที่มีการแก้ไขผิดไปจากร่างเดิม ขอให้เป็นหน้าที่ของกมธ.เสียงข้างน้อยที่ปรับแก้ไขมาตรานั้น นำเสนอต่อประธานรฐสภา ให้ที่ประชุมพิจารณาว่าเห็นสมควรที่จะปรับปรุงมาตราที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1-2 มาตรา และให้รัฐสภาตัดสิน

 

           จากนั้น นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ได้เสนอร่างแก้ไขมาตรา 24/1 ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับมาตรา 23 ว่าด้วยสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ถูกโต้แย้งจาก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะวิปฝ่ายค้าน เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่ชอบและถูกต้องตามกระบวนการพิจารณากฎหมาย และกรณีที่กมธ.คุยไม่ลงตัว แต่กลับโยนให้เป็นภาระของรัฐสภา ถือเป็นการดำเนินการตามนิติวิธีที่ไม่ชอบ ซึ่งสอดคล้องกับนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ฐานะกมธ.ฯ ที่มองว่าการเสนอของนพ.ระวีนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มีการเสนอเป็นคำแปรญัตติไว้

           อย่างไรก็ดีหลังจากนั้นกมธ.ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ฝั่งเสียงข้างมากได้พยายามชี้แจงและอภิปรายเหตุผล เพื่อแก้ไขปัญหาและให้ที่ประชุมสามารถพิจารณาวาระสองต่อเนื่องได้  พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ให้กมธ.เสียงข้างน้อยเป็นฝ่ายดำเนินการ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับสูตรคำนวณ โดยใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ย เพราะมองว่าเนื้อหาขัดกับรัฐธรรมนูญ

 

           อย่างไรก็ดีการชี้แจงดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงก่อนที่นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เสนอต่อที่ประชุมให้กมธ.ถอนร่างร่างพ.ร.ป.ดังกล่าวเพื่อกลับไปทำใหม่ให้เรียบร้อย ไม่รุกรี้รุกรน เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่สำคัญ อย่างไรก็ดีการพิจารณาที่กมธ.หารือกัน ทั้งที่รัฐสภาอยู่ระหว่างการเข้าสู่มาตรา 25 แต่กลับพบว่ามีการเสนอมาตรา 24/1 แทรกมาจึงเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ

 

 

           ซึ่งประเด็นการถอนร่างฯ นั้นได้รับการสนับสนุน ทั้งนี้นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายสนับสนุนให้กมธ.กลับไปพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง เนื่องจากร่างแก้ไขที่เป็นข้อเสนอของนพ.ระวี ว่าด้วยรายละเอียดของการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประเด็นที่สร้างการถลำลึก เพราะเป็นการคำนวณเพิ่มจากการคำนวณเดิมที่ลงมติแล้วและ เสนอให้ได้มีการคำนวณใหม่ 

 

           “รายละเอียดที่เสนอให้พิจารณาใ เป็นห่วงว่าจะสอดคล้องกับที่ได้มีมติหรือไม่ หรือขัดกับส่วนอื่นได้หรือไม่ หากพิจารณาต่อไปจะเกิดปัญหา ทั้งนี้ผมมองว่าเป็นความรับผิดชอบของกมธ. ที่ต้องตรวจดูรายละเอียด” นายเสรี กล่าว

 

           อย่างไรก็ดีมีการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน โดยนายจุลพันธ์ อภิปรายสนับสนุนให้ถอนร่างกลับไปพิจารณาเนื่องจากมองว่ายังมีเวลาพิจารณาในสัปดาห์หน้า และเชื่อว่ารัฐสภาจะพิจารณาได้ทันกรอบเวลา 180 วัน ซึ่งครบกำหนดวันที่ 15 สิงหาคม ขณะที่กระบวนการที่กมธ.เสียงข้างมาก ยอมให้เสียงข้างน้อยเสนอคำขอแก้ไขต่อที่ประชุมสภา ตามกระบวนการตรากฎหมายไม่เคยมี อีกทั้งขั้นตอนการแปรญัตติได้ล่วงเลยไปแล้ว

 

 

           ทำให้โดยนายสาธิต  ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ฐานะประธานกมธ.  ลุกขึ้นเสนอเพื่อขอถอนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกไปก่อนและเสนอกลับมาในโอกาสต่อไป โดยจะพิจารณาในปัญหาข้อบังคบและร่างเนื้อหาที่เสนอ โดยจะกลับมาเสนอต่อที่ประชุมเพื่อให้พิจารณาในลำดับมาตราต่อไป

 

           ซึ่งนายชวนได้เรียกสมาชิกตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อลงมติตามที่ประธานกมธ.เสนอ

 

           แต่จังหวะนั้น นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ฐานะกมธ.ฯ อภิปรายคัดค้านเนื่องจากกังวลว่าการถอนร่างพ.ร.ป.ออกไปแล้วจะสร้างทางตันกว่าเดิม เพราะรัฐสภาไม่สามารถพิจารณาได้ทันตามกำหนดเวลา  และเสนอให้พักการประชุมแทนการถอนร่างเนื้อหา

 

           ทำให้นายชวน กล่าวยืนยันต่อการลงมติในญัตติที่นายสาธิต เสนอเพราะเป็นไปตามขึ้นตอน จากนั้นได้เดินหน้าลงมติ โดยมติเสียงข้างมาก 476 เสียง เห็นชอบให้กมธ.ถอนเนื้อหา ต่อ 25 เสียง งดออกเสียง 20 เสียงและไม่ลงมติ 9 เสียง 

 

        จากนั้นนายชวน ได้สอบถามว่าจะใช้เวลาพิจารณามากน้อยแค่ไหน โดยนายสาธิต กล่าวว่าตนจะขอนัดประชุมกมธ.ช่วงค่ำ เพื่อพิจารณาและจะส่งให้รัฐสภาพิจารณาในวันที่ 27 กรกฏาคม แต่ได้รับคำโต้แย้งจากนายสุขุมพงศ์​ โง่นคำ กมธ.ฯ เสนอว่าต้องใช้ความรอบคอบ อย่าเพิ่งนัด ให้กมธ.พิจารณาให้ละเอียด วันจันทร์ ที่ 1 สิงหาคม ประชุมกมธ. จากนั้น วันอังคาร ที่ 2 สิงหาคม ค่อยเสนอที่ประชุมร่วมรัฐสภา 

 

           ทั้งนี้นายชวน กล่าวว่า  เป็นภารกิจของกมธ. เพราะผลการประชุมกมธ.ว่าอย่งไร สภาต้องปฏิบัติไปตามนั้น ทั้งนี้  ร่างพ.ร.ป.สำคัญกระบวนการทั้งหลาย ต้องระวังไม่ให้บกพร่องผิดพลาดมีผลวันข้างหน้าขอให้กมธ.ช่วยดูโดยละเอียด

 

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวใช้เวลาพิจารณาเกือบ 3 ชั่วโมงก่อนที่จะมีข้อสรุปดังกล่าว.