"บิ๊กน้อย" ย้ำ อนาคตหากมีคนดีกว่า "บิ๊กตู่" รวมแผ่นดิน พร้อมชู เป็น "นายกฯ"

เมื่อเวลา 12.00น.วันที่ 1 ส.ค. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์  ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา  หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน  แถลงข่าวภายหลังประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2565 ว่า  เป้าหมายของพรรคมีอย่างเดียว คือไม่ได้เป็นพรรคขนาดใหญ่  ไม่ได้เป็นพรรคขนาดเล็ก แต่เป็นขนาดกลางตามที่เรามุ่งหวังไว้ว่าเราจะเป็นพรรคที่สามารถจะเป็นพรรคที่สามารถจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเราหวังส.ส. 25 ที่นั่ง  ในพื้นที่ภาคกลาง เป็นหลัก ภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคเหนือ เพื่อจะได้ร่วมรัฐบาล 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จันทร์ โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ใช่หรือไม่   พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ตนและพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรุ่นพี่ที่เคยทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งในเรื่องการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง 

"ต่อไปในอนาคตอาจจะต้องมีคนที่ดีกว่าท่าน เราจะสนับสนุนคนที่ดี เพื่อให้ประเทศอยู่รอดและไปได้  ซึ่งยังไม่ได้มีการทาบทามใครทั้งสิ้นเป็นเพียง ช่วงเริ่มต้น ทำพรรคให้ประชาชนศรัทธา"

ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ทุกวันแต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องพรรค  

"ผมบอกพล.อ.ประวิตร ว่าจะทำพรรคการเมือง ซึ่งท่านบอกว่า ก็เอาดิ ลองไปทำดู ซึ่งส่วนตัวผมถ้ามีอะไรจากไปปรึกษาท่านเพราะ เคารพเหมือนพ่อ ท่านดูแลผมมาตั้งแต่เป็นทหารอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว"

เมื่อถามว่า ท่านนำประสบการณ์เคยอยู่พรรคพลังประชารัฐและพรรคเศรษฐกิจไทย มาใช้กับพรรคนี้อย่างไร พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า  ตนคือคนหน้าใหม่ในการเมือง อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่กลับมาใหม่คราวนี้ไม่มีอะไรมาก เพราะเราคิดถึงสมาชิกที่ดึงจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ไปพรรคเศรษฐกิจไทย จากนั้นเราก็ทิ้งเขาไป ซึ่งตนคิดว่าตนทำไม่ถูก  จึงรู้สึกว่าตนเองต้องรับผิดชอบจึงหันกลับมาใหม่ ยืนยันว่าพรรคเราเป็นพรรคของประชาชน 

เมื่อถามว่า จะดึงส.ส.จากพรรคเศรษฐกิจไทยมาหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยคิด และไม่คิดจะทำด้วย ถ้าคนจะมาอยู่ร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องไปดึง หรือไปทำอะไรให้เขามา ตนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง เราไม่เคยทำอย่างนั้น และไม่คิดจะทำด้วย ตนอยากได้คนที่สมัครใจที่อยากจะมาอยู่ด้วย เพื่อมาทำงานให้กับบ้านเมือง 

ส่วนการส่งผู้สมัครในเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่ส่งทั้ง 400 เขต แต่จะส่งเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่มีหวัง ซึ่งเราก็ดูไว้ คือภาคกลาง เป็นหลัก ซึ่งถ้าเราไม่มีอะไรดี เราคงไม่มาตั้งพรรค

พล.อ.วิชญ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าตนไม่เคยเป็นนั่งร้านให้พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร และไม่เคยสร้างนั่งร้านที่บ้านตนเอง ไม่เคยมี  ทุกคนเข้าใจว่าตนอยู่ใกล้ชิดพล.อ.ประวิตรทำงานมาตั้งแต่สมัยเป็นทหารด้วยกัน ยืนยันว่าตนยังไม่คิดถึงว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯเอง ต้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคพิจารณา ส่วนการลงสมัครส.ส.นั้น ตนจะไม่ลง ไม่ถนัดงานสภาปล่อยให้คนอื่นทำดีกว่าอย่าไปรวบรวมเองทุกอย่าง.