“แรมโบ้” เผยเบื้องหลังนั่งหัวหน้า “พรรคเทิดไท” หนุน “บิ๊กตู่” นายกฯอีกสมัย
“แรมโบ้-เสกสกล” เปิดใจเบื้องหลังก่อตั้ง นั่งหัวหน้า “พรรคเทิดไท” ลั่นถึงเวลาเป็นหัวราชสีห์ ตั้งเป้าส่ง ส.ส.ครบทั้งบัญชีรายชื่อ-เขต ย้ำจุดยืนป้องสถาบันฯ หนุน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯอีกสมัย
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคเทิดไท กล่าวถึงการตั้งก่อพรรคเทิดไทว่า เป็นหางราชสีห์มานานต้องเป็นหัวสักครั้ง อย่างไรก็ตามในฐานะที่ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ยินดีและภูมิใจที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เอาพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปทำต่อ
นายเสกสกล กล่าวว่า ช่วงที่ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ อึดอัดมาก มีการบีบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็คิดว่า เราควรมีบ้านใหม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ คำว่า รวมไทยสร้างชาติเป็นมอตโตของพล.อ.ประยุทธ์ เสียดายถ้าเกิดมีใครเอาคำนี้ไปใช้ ก็เลยให้ทีมงานไปจดทะเบียนพรรคไว้ แล้วในที่สุดนายพีระพันธ์มาทำต่อ ให้เป็นสถาบันพรรคการเมือง ให้เป็นที่พึ่งพาของประชาชน
"ผมดีใจ ปลื้มใจ ถึงผมไม่ได้อยู่ร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคแล้วก็ตาม" นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า เหตุที่ตนไม่ได้อยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะตนมีเครือข่ายเป็นพี่น้องเกษตรกร เป็นคนรากหญ้า เป็นอดีตหมู่บ้านคนเสื้อแดงที่กลับเนื้อกลับใจมาร่วมกันปกป้องสถาบันและสนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำงาน
"พี่น้องเหล่านี้ก็อยากให้ผม ในฐานะเป็นอดีตแกนนำพวกเขามาเป็นหัวหน้าพรรคเทิดไทเท่านั้น พวกเขาไม่ไปทางอื่น ต้องตั้งพรรคใหม่ ดังนั้นผมจึงจำเป็น" นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า จุดยืนตนยังชัดเจน 1.ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ได้เป็นนายกฯ อีกสมัย เรื่องวาระ 8 ปี มั่นใจว่าไม่มีปัญหาแน่นอน นี่คือจุดยืนของตนไม่เปลี่ยนแปลง
นายเสกสกล กล่าวถึงพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นพรรคที่ดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพ ตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรค มีเพียงบางคนในพรรคเท่านั้นที่พยายามจะกีดกัน พอกลับไปไม่ถึง 7 วัน ก็ถูกเล่นงานแล้วหาว่า ตนต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นหัวหน้าพรรคแทน พล.อ.ประวิตร ซึ่งไม่เป็นความจริง และหาว่าตนไม่มีที่ไป
"3 ปีที่ผ่านมาพรรคไม่มอบภารกิจอะไรให้ผมทำเลย ไม่ใช้งานอะไรผม ผมผ่านประสบการณ์การเมือง 30 ปี จึงคิดว่าน่าจะทำพรรคเองได้ ทำให้ประชาชนได้มากกว่านี้ หากพรรคไหนไม่เห็นคุณค่าผม" นายเสกสกล กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคเทิดไท มีกระสุนเพียงพอสำหรับการเลือกตั้งหรือยัง นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องกระสุน ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะตนทำการเมืองภาคประชาชน อยู่กับรากหญ้า อยู่กับเกษตรกร เรื่องงบประมาณก็ใช้ตามกฎหมายกำหนด เราเข้ามาทำงานการเมืองไม่ต้องการที่จะซื้อเสียงเลือกตั้ง เราต้องการทำเพื่อประเทศชาติประชาชน
"อย่าไปยึดติดเรื่องเงิน มีทุนไม่มีทุน เราสนใจอย่างเดียวเดินหน้าทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน ส่วนจะได้แค่ไหนอย่างไรก็เป็นดุลพินิจเป็นการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ที่จะเห็นว่าพรรคเทิดไท แม้จะป็นพรรคที่ยากจนแต่เป็นพรรคที่จริงใจ ซึ่งสโลแกนของพรรคเราชัดเจนคือ ชีวิตเพื่อชาติ หัวใจเพื่อประชาชน" นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวถึงที่มาของงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินกิจกรรมของพรรคว่า 1.เงินอุดหนุนพรรคการเมือง จากกกต. 2.เงินบริจาค 3.จากสมาขิกพรรคที่ให้การสนับสนุน ดังนั้นตนเชื่อว่าเมื่อไม่ได้ต้องการซื้อเสียงเข้าไปเป็นสส. ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งเราพอหากันได้
เมื่อถามว่า ตั้งเป้าส่งลงสมัคร ส.ส.กี่เขต นายเสกสกล กล่าวว่า ขณะนี้เรามีเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ มีอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง ที่กลับตัวกลับใจมาเป็นหมู่บ้านรัฐวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีกว่า28,000 แห่ง มั่นใจว่าจะสามารถจะส่งได้ครบทั้ง 400 เขต รวมถึงบัญชีรายชื่อครบ 100 คน
เมื่อถามว่า มีคนวิเคราะห์ว่าประมาณ 4-5 พรรคเป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ นายเสกสกล กล่าวว่า ให้ไปไปถามหัวหน้าพรรคของแต่ละพรรค แต่สำหรับพรรคเทิดไท จุดยืนชัดเจนคือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย
เมื่อถามย้ำว่า หลายพรรคหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ตัดคะแนนกันหรือ นายเสกสกล กล่าวว่า เชื่อว่าไม่ตัดคะแนนกันเอง เพราะจากประสบการณ์ทางการเมืองของตน ฐานใครก็ฐานคนนั้น เช่น เขาชอบนายพีระพันธุ์ ชอบรวมไทยสร้างชาติ ก็ไปทางนั้น ชอบพลังประชารัฐก็ไปพลังประชารัฐ แต่ส่วนของเทิดไทก็ไม่ไปตัดคะแนนใคร เพราะเป็นฐานที่ตนทำไว้ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ซึ่งคนเสื้อแดงที่กลับเนื้อกลับใจ พี่น้องเกษตรกร คนรากหญ้าจะรู้จักนิสัยตนดี ยืนยันว่าพรรคเทิดไท ไม่ใช่พรรคแตกแบงก์ เป็นพรรคจริงใจ ไม่ใช่พรรคที่ออกจาก พปชร. แต่เป็นพันธมิตรกันได้