"นิพิฏฐ์" ชี้ "สุพจน์" มาตุฆาตรธน. ยกเคส"สิระ" ผ่าน22ปี ยังถูกตัดสิทธิ์ส.ส.

        นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค เรื่อง มาตุฆาตรัฐธรรมนูญ เพื่อแสดงความเห็นต่อกรณีความคิดเห็นของนายสุพจน์ ไข่มุกด์ อดีตรองประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) คนที่หนึ่ง ที่มองว่าวาระดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้เริ่มนับจากปี2562 ที่ได้รับโปรดเกล้าฯดำรงตำแหน่งนายกฯ ตาม มาตรา 158 และ มาตรา 159 รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560  ว่า   นายสุพจน์ ได้มาตุฆาตรัฐธรรมนูญ 2560   โดยเปลี่ยนแปลงความเห็นของตัวเอง ที่บอกว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนยึดอำนาจ กับ นายกรัฐมนตรีหลังยึดอำนาจไม่ต้องนับวาระการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกัน โดยตอนที่นายสุพจน์ เป็นกรธ. บอกว่า ต้องนับวาระต่อเนื่องกัน

         นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า กฎหมายไม่มีผลย้อนหลังเป็นโทษ  แต่เรื่องดังกล่าวใช้กับโทษทางอาญาเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 และมาตรา3 จะนำมาใช้กับสิทธิในทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญไม่ได้

          "ตัวอย่างเช่น อดีตส.ส.สิริ เจนจาคะ ได้รับการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(10) ระบุว่า ผู้สมัครต้องไม่เคยถูกศาลพิพากษาจำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ส.ส.สิระ ทำความผิดเมื่อปี 2538 ก่อน รัฐธรรมนูญ 2560 ถึง 22 ปี โดยทำความผิดในขณะที่ใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2534 และรัฐธรรมนูญปี 2534 ขณะทำผิดก็ไม่มีบทต้องห้ามเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็ย้อนตัดสิทธิไปถึงการกระทำในปี2538 เห็นไหมครับ การย้อนหลังตัดสิทธิทำได้ เพราะเป็นสิทธิทางการเมือง ไม่ใช่โทษทางอาญา" นายนิพิฏฐ์ ระบุ

          นายนิพิฏฐ์​ระบุด้วยว่าตามรายงานคณะกรรมาธิการ เป็นความเห็นของนายสุพจน์ และ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ไม่ใช่มติของกรธ. ตนมองว่าแม้เป็นความเห็นของ 2 ท่าน แต่เมื่อท่านอื่นในที่ประชุมไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ดังนั้น จึงถือว่า ทุกท่านเห็นด้วยกับความเห็นของนายมีชัย  และนายสุพจน์มิใช่หรือ ผมอยู่ในสภามานานเคยผ่านการพิจารณากฎหมาย และรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ยึดหลักพิจารณาแบบนั้น อย่างไรก็ดี ขณะนี้รอฟังความเห็นของนายมีชัย  ตัวจริงเสียงจริง ว่าจะกระทำซ้ำ ด้วยการปิตุฆาตรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่