เปิดตัว บ.รับเหมาฯ ธุรกิจล่าสุด “ตั้น ณัฏฐพล” ก่อน 3 ทหารเสือ กปปส.แยกทาง
เปิดตัว “วิสดอม พร็อพเพอร์ตี้ฯ” บริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคาร ธุรกิจล่าสุด “ตั้น ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” พบ “พล.อ.วินัย ภัททิยกุล” บิดา “จั้ม สกลธี” ร่วมถือหุ้น ก่อนสะพัดอดีต 3 ทหารเสือ กปปส. แยกทางกันเดิน
มีกระแสข่าวสะพัดหนาหูมาสักระยะแล้วว่า “อดีต 3 ทหารเสือ กปปส.” อย่าง “ตั้น-บี-จั้ม” อาจแยกทางกันเดินบนถนนทางการเมือง
แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวว่าทั้ง 3 รายอาจล่มหัวจมท้ายก่อร่างสร้าง “พรรคไทยสร้างสรรค์” เพื่อเล่นการเมืองต่อไป โดยโฟกัสถึงเป้าหมายการเลือกตั้งใหญ่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายหลัง “จั้ม สกลธี ภัททิยกุล” อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ได้คะแนนหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ราว 2.3 แสนคะแนน จึงคิดว่าน่าจะพอมีหวังอยู่บ้าง
ทว่าแผนนี้ก็เป็นอันพับเก็บลงไป เมื่อแต่ละคนเลือกทางเดินของตัวเอง
เริ่มที่ “ตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่อยากทำการเมืองระยะยาว โดยปูทางจากการสร้างพรรคไทยสร้างสรรค์ ทว่าการกำเนิดขึ้นของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” หรือ รทสช. ที่นำโดย “บิ๊กตุ๋ย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” โดยรวบรวม “กลุ่มซอยราชครู” และมี “กลุ่มทุน” กลุ่มเดียวกันแพ็คกันแน่นอาจตอบโจทย์ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากกว่า ทำให้พรรคไทยสร้างสรรค์ขับเคลื่อนลำบาก
รายของ “บี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ 3 หลังจากพ้นเก้าอี้เพราะพิษจากการเป็นแกนนำม็อบ กปปส. ได้รับการทาบทามจาก “ค่ายสีน้ำเงิน” ให้มาปูทางการเมืองในพื้นที่ กทม.
ส่วน “จั้ม สกลธี ภัททิยกุล” มีข่าวว่าถูกเปิดดีลโดย รทสช. ขอให้เข้าไปช่วยงาน “ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” บุตรบุญธรรม สุเทพ เทือกสุบรรณ แต่ชื่อชั้นของ “จั้ม” ยากที่จะทำใจไปอยู่ใต้ปีกของ “ขิง” ทำให้ยังไม่ตอบรับในช่วงเวลานี้
แต่ประเด็นที่น่าสนใจ แม้ว่าเส้นทางการเมืองของทั้งอดีต 3 ทหารเสือ กปปส. อาจต้องแยกทางกันเดินตามเส้นทางของตัวเอง แต่ในมุมธุรกิจ อย่างน้อย “ตั้น-จั้ม” ก็ยังคงโคจรบนเส้นทางเดียวกันอยู่
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 พบว่า “ตั้น ณัฏฐพล” เพิ่งเปิดบริษัทใหม่ เกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัย โดยปรากฏชื่อของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม อดีตแกนนำการรัฐประหารเมื่อปี 2549 บิดาของ “จั้ม สกลธี” ร่วมเป็นผู้ถือหุ้นด้วย
ธุรกิจดังกล่าวมีชื่อว่า บริษัท วิสดอม พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 20 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 973 อาคารเพรสิเด้นท์ ทาวเวอร์ ชั้น 6 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ อาคารชุด อาคารบ้านพักอาศัย
ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้
- นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ (อดีต ส.ส.พปชร. อดีต รมว.ศึกษาธิการ)
- นางทยา ทีปสุวรรณ (ภริยานายณัฏฐพล)
- นายชาญวิทย์ วิภูศิริ (ส.ส.กทม.เขต 15 พปชร. อยู่ใน “กลุ่ม กทม.”)
- นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร (อดีตเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ยุคนายณัฏฐพล เป็นทายาทตระกูล “ศรีเฟื่องฟุ้ง” ยักษ์ใหญ่ทำกระจกของไทย)
- พล.อ.วินัย ภัททิยกุล (อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม แกนนำรัฐประหารปี 2549 บิดา “จั้ม สกลธี”)
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 22 มี.ค. 2565 มีนายชาญวิทย์ วิภูศิริ ถือหุ้นใหญ่สุด 30% นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ถือรองลงมา 27.5% นางทยา ทีปสุวรรณ ถือ 27.5% นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร ถือ 10% และ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ถือ 5%
ยังมิได้นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ในมุมทรัพย์สินที่แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อปี 2564 มีรายละเอียด ดังนี้
- “ตั้น” สมบัติรวม 1.9 พันล้าน
นายณัฏฐพล แจ้งมีทรัพย์สิน 359,966,455 บาท ได้แก่ เงินสด 5.5 แสนบาท เงินฝาก 1,128,866 บาท เงินลงทุน 211,306 บาท เงินให้กู้ยืม 252,281,310 บาท ที่ดิน 104,465,767 บาท ยานพาหนะ 50,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 735,205 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 544,000 บาท มีหนี้สิน 454,155 บาท (เป็นเงินเบิกเกินบัญชี)
ส่วนนางทยา ทีปสุวรรณ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 1,442,280,260 บาท ได้แก่ เงินสด 3.2 แสนบาท เงินฝาก 91,502,548 บาท เงินลงทุน 1,132,594,335 บาท เงินให้กู้ยืม 99,425,403 บาท ที่ดิน 1,992,000 บาท ยานพาหนะ 4,119,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 15,803,972 บาท ทรัพย์สินอื่น 96,523,000 บาท มีหนี้สิน 121,924,379 บาท
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 178,382,353 บาท ได้แก่ เงินฝาก 6,017,343 บาท เงินลงทุน 38,483,000 บาท ที่ดิน 98,560,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 33,416,711 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,950,298 บาท มีหนี้สิน 18,306 บาท
รวมมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,980,629,068 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 122,396,841 บาท
- “บี” รวย 203 ล้าน
ส่วนนายพุทธิพงษ์ แจ้งมีทรัพย์สิน 146,811,316 บาท ได้แก่ เงินสด 1 แสนบาท เงินฝาก 87,230,316 บาท ที่ดิน 32,771,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 12 ล้านบาท ยานพาหนะ 9 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 5,710,000 บาท มีหนี้สิน 410,850 บาท (เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน)
นางนุสบา ปุณณกันต์ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 56,338,883 บาท ได้แก่ เงินสด 1 แสนบาท เงินฝาก 22,018,883 บาท เงินลงทุน 5 ล้านบาท ที่ดิน 6 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7.5 ล้านบาท ยานพาหนะ 8.5 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 7,220,000 บาท ไม่มีหนี้สิน แจ้งไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 5 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว
รวมมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 203,150,200 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 410,850 บาท
- “จั้ม” ทรัพย์สินรวม 42 ล้าน
นายสกลธี แจ้ง ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. เมื่อต้นปี 2565 ระบุว่า มีบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 ราย โดยเจ้าตัวมีทรัพย์สิน 34,051,475 บาท ได้แก่ เงินสด 8 แสนบาท เงินฝาก 1,566,320 บาท เงินลงทุน 4,195,955 บาท ที่ดิน 21,080,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,789,200 บาท ยานพาหนะ 1,750,000 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 2,870,000 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 49,067 บาท
ส่วนนางนันท์นัดดา ภัททิยกุล คู่สมรส มีทรัพย์สิน 5,101,577 บาท ได้แก่ เงินสด 7 แสนบาท เงินฝาก 991,710 บาท เงินลงทุน 1,409,867 บาท ยานพาหนะ 5 แสนบาท ทรัพย์สินอื่น 1.5 ล้านบาท มีหนี้สิน 330,017 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 2,870,865 บาท
รวมทั้งคู่มีทรัพย์สิน 42,023,918 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 379,085 บาท
ทั้งหมดคือมุมทรัพย์สิน-ธุรกิจล่าสุดของอดีต 3 ทหารเสือ กปปส. โดยเฉพาะรายของ “ตั้น ณัฏฐพล” ที่เพิ่งก่อร่างสร้างธุรกิจภายหลังพ้นตำแหน่งทางการเมือง และถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเว้นวรรคทางการเมือง โดยมีชื่อของ พล.อ.วินัย เข้าไปร่วมถือหุ้นด้วย
ส่วนบริษัทนี้จะขับเคลื่อนไปในทิศทางไหน คงต้องรอดูกันต่อไป