"ประเดิมชัย" จ่อร้อง กมธ.ปราบโกง เอาผิดคนเอี่ยว ฝาก"ส.ต.ท.หญิง"รับราชการ
"ประเดิมชัย" ชี้ ประเด็น ส.ต.ท.หญิง ยังมีเงื่อนงำ จ่อร้อง "กมธ.ปราบโกง"สภา ตรวจสอบ ย้ำ ผบ.ตร., ผบ.ทบ. และ กอ.รมน.ภาค4ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่สั่งย้ายกลับต้นสังกัด
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงที่พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่จะนำข้อมูล ข้อเท็จจริงพร้อมหลักฐาน กรณีหน่วยราชการตำรวจและทหารรับ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม เข้ารับราชการและพบกระทำที่อาจเข้าข่ายค้ามนุษย์ ยื่นต่อคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาฯ ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประธานกมธ. เนื่องจากมีประเด็นข้อสงสัย คือ
1. กระบวนการรับบุคคลเข้ารับราชการตำรวจทำอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ เป็นไปด้วยเส้นสนกลในหรือไม่
2. ส.ต.ท.หญิง ชื่อไปปฏิบัติงานที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งมีสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือจากการปฏิบัติมากมาย เช่น เบี้ยเลี้ยง เบี้ยเสี่ยงภัยและอายุราชการที่ทวีคูณ เท่าที่ทราบข้อมูลในเบื้องต้น มีการสร้างขบวนการขึ้นมาเพื่อสร้างการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงาน
"เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. รวมถึงผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาค 4 ผู้อำนวยการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ย้าย ส.ต.ท.หญิง กลับต้นสังกัดแล้วจบเรื่อง ทั้งนี้ผมมองว่า แต่ผู้บังคับบัญชา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการแต่งตั้งโยกย้าย ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าวโดยมิชอบ อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157”นายประเดิมชัย กล่าว
นายประเดิมชัย กล่าวด้วยว่าตนมีข้อมูลมาว่า ในหน่วยงาน กอ.รมน.ภาค 4 มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานช่วนงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 50,000 คน หากมีกรณี ส.ต.ท.หญิง เพียงแค่ 1% หรือ 500 คน ในหน่วยงานราชการก็ถือเป็นการกระทำที่จงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่สร้างความเสียหายให้กับงบประมาณแผ่นดิน.