สมบัติ 6 ล.-หย่าเมีย! รู้จัก “ธานี อ่อนละเอียด” ก่อนถูกเชิญแจงปม “ส.ต.ท.หญิง”

สมบัติ 6 ล.-หย่าเมีย! รู้จัก “ธานี อ่อนละเอียด” ก่อนถูกเชิญแจงปม “ส.ต.ท.หญิง”

ทำความรู้จัก “ธานี อ่อนละเอียด” ส.ว.ตั้งแต่ปี 54 นั่ง สนช. ปี 57 มาเป็น ส.ว.อีกรอบปี 62 คุ้ยทรัพย์สินล่าสุด 6 ล้านบาท สถานะ “หย่า” ก่อนถูก กมธ.ปราบโกงฯ เชิญพร้อม “พล.ร.อ.ศิษฐวัชร-พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงปม “ส.ต.ท.หญิง”

ชื่อของ “ธานี อ่อนละเอียดส.ว. กลับมาได้รับความสนใจจากสาธารณชนอีกครั้ง

เมื่อตกเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เชิญมาให้ข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริง 

พลันที่ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ. และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลง กรณีการแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม และ ส.ท.หญิงปัทมา ศิริรัตน์ เข้ารับราชการทหาร และให้ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยมิชอบ และยังมีชื่อเป็นผู้ช่วย ส.ว.รายหนึ่ง รวมทั้งยังได้รับการแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ใน กมธ.การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการ สมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วย

“เพื่อให้ความกระจ่างแก่สังคม กมธ.ฯ ได้มีมติเชิญบุคคล เข้ามาให้ข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ ประเด็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ 3 รายชื่อที่เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ 1.นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. 2.พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ส.ว. ในฐานะอดีตประธานกมธ.การกฎหมายฯ สนช. ที่ลงชื่อแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เป็นที่ปรึกษากมธ.การกฎหมายฯ สนช. และ 3.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต กมธ.การกฎหมายฯ สนช. ทั้งนี้มีรายชื่อที่ กมธ.จะตรวจสอบอีก 20 กว่าคน แต่ในครั้งแรกวันที่ 8 ก.ย.นี้จะเชิญ ส.ต.หญิง ปัทมา ศิริรัตน์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายมาให้ข้อมูลก่อน” นายธีรัจชัย กล่าว

อ่านข่าว: "กมธ.ปราบโกง" เตรียมเชิญ "2ส.ว.-พัชรวาท" แจงปมเอี่ยวกรณี "ส.ต.ท.หญิง"

ประวัติโดยสังเขปของ “ธานี อ่อนละเอียด” ในเว็บไซต์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ระบุว่า เกิดวันที่ 25 ธ.ค. 2496 (ปัจจุบันอายุ 69 ปี) จบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง และการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 

เคยผ่านการอบรมหลักสูตร ประกาศนียบัตรกฎหมายภาษีอากร จาก เนติบัณฑิตยสภา และหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่นที่ 16 จาก สถาบันพระปกเกล้าฯ

ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง เคยเป็นผู้แทนสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดนครปฐม ที่ปรึกษากฎหมาย สำนักบริหารวิชาการ มหาวิทยาลัยศิลปากร ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม (กกต.นครปฐม) และอาจารย์พิเศษ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม รวมถึงเคยเป็นทนายความและที่ปรึกษากฎหมายมาก่อน

เส้นทางการเมือง เจ้าตัวเข้ามาเป็น ส.ว.ครั้งแรกจากการ “สรรหา” เมื่อปี 2554 กระทั่งมีรัฐประหารปี 2557 เจ้าตัวได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช. ระหว่างปี 2557-2562 หลังจากนั้นได้รับการสรรหาให้เข้าเป็น ส.ว.อีกครั้ง โดยการคัดเลือกของ คสช. ตามกลไกรัฐธรรมนูญปี 2560 และโหวตเลือก “บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2562

“ธานี” ถือเป็นหนึ่งใน “มือกฎหมาย” ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงนิติบัญญัติมายาวนาน มีสายสัมพันธ์อันดี และเป็น “ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย” ให้กับตระกูล “บิ๊ก ป.” ผู้มากบารมีและกว้างขวางทางการเมืองในยุคนี้ 

“ธานี” เคยตกเป็นข่าวคึกโครมสมัยเจ้าตัวเป็น สนช. เมื่อครั้งไปนั่ง กมธ.กฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเป็นผู้รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ “วรยุทธ อยู่วิทยา” หรือ “บอส” ผู้ต้องหาคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต

อย่างไรก็ดี เมื่อ 31 ก.ค. 2563 “ธานี” เคยแถลงชี้แจงว่า กมธ.กฎหมายฯ สนช. แค่ศึกษาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเท่านั้น มิได้มีอำนาจในการสอบพยานใหม่ใน “คดีบอส” หรือไปบงการฝ่ายบริหาร-องค์กรอื่นแต่อย่างใด

“อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เสาะหาข้อเท็จจริงของ กมธ.แล้วมีคำสั่งให้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรม และอ้างว่าได้แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องขอความเป็นธรรมรับทราบแล้ว เขาสั่งยุติเรื่องไปแล้วตั้งแต่ปี 2561 เขาแจ้งหนังสือมานะครับ” นายธานี แถลงต่อหน้าสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภาเดิม เมื่อ 31 ก.ค. 2563
 
ในมุมทรัพย์สิน เท่าที่ตรวจสอบพบล่าสุดของ “ธานี อ่อนละเอียด” กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ว. เมื่อ พ.ค. 2557 แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 6,181,200 บาท แบ่งเป็น เงินสด 8 แสนบาท เงินฝาก 298,447 บาท เงินลงทุน 345,931 บาท เงินให้กู้ยืม 7.5 แสนบาท ที่ดิน 638,972 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 783,333 บาท ยานพาหนะ 555,000 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 2,010,000 บาท

มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,139,644 บาท แบ่งเป็น เงินเบิกเกินบัญชี 104,765 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 1,034,878 บาท

มีรายได้ทั้งหมด 5,819,123 บาท แบ่งเป็น เงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่ม ส.ว. ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2554 – พ.ค. 2557 รวม 4,221,623 บาท เบี้ยประชุม 447,500 บาท จำหน่ายที่ดิน 750,000 บาท และจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 400,000 บาท

มีรายจ่ายทั้งหมด 4,284,795 บาท แบ่งเป็น เงินกู้สินเชื่อ 1,456,800 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต 1,850,000 บาท ค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ น้ำมันรถยนต์ 650,000 บาท เบี้ยประกันชีวิต 127,995 บาท เงินบริจาค ทำบุญ อื่น ๆ 200,000 บาท

ย้อนกลับไปเมื่อ เม.ย. 2554 สมัย “ธานี” รับตำแหน่ง ส.ว.ครั้งแรก ระบุสถานะว่า “หย่า” มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 9,993,436 บาท มีหนี้สิน 1,931,038 บาท แบ่งเป็นของตัวเอง 8,777,061 บาท (ในจำนวนนี้มีที่ดิน 5 แปลง) และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (ขณะนั้น) 1,216,375 บาท

อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลทรัพย์สินปัจจุบันของ “ธานี” เนื่องจากเจ้าตัวลาออกจาก สนช. และได้รับการแต่งตั้งเป็น ส.ว. ต่อภายใน 2 เดือน ซึ่งไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแก่ ป.ป.ช. แต่จะยื่นไว้เพื่อให้ทราบก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ เป็นไปตามกฎหมายใหม่ของ ป.ป.ช.

ทั้งหมดคือข้อมูลโดยสังเขปของ “ธานี อ่อนละเอียด” ส.ว.ที่กำลังร้อนแรงมากที่สุดในตอนนี้

ส่วน กมธ.ปราบโกงฯ จะเชิญ “ธานี” ไปให้ข้อมูล-ข้อเท็จจริงอะไรบ้าง คงต้องรอดูกันต่อไป